Page 17 - งานศิลปหัตถกรรม ลาวแง้ว บ้านหนองเมือง ลพบุรี
P. 17

8                                                                                      9



                         ๔.  จินตนาการจากสิ่งที่อยู่ในธรรมชาติ เราจะพบว่าเด็กเล็ก ๆ ที่
                  เกิดใหม่ยังขาดจินตนาการ จะมีเพียงความรู้สึก เช่น หิว หรือเจ็บปวดเท่านั้น
                  เมื่อเริ่มโตขึ้น การเรียนรู้จึงก่อให้เกิดจินตนาการ เช่น เมื่อมนุษย์เห็นกิ่งไม้
                  หรือใบไม้แห้งลอยน�้ามามนุษย์รู้จักสังเกต จึงคิดน�าเอากิ่งไม้เยอะ ๆ มาผูกมัด

                  รวมกัน เป็นแพที่สามารถลอยน�้าได้ ต่อมาจึงพัฒนารูปแบบมาเป็นเรือลักษณะ
                  ต่าง ๆ เมื่อเห็นสัตว์ต่อสู้กันด้วยเล็บหรือเขา มนุษย์ยุคแรกจึงน�าเอาเล็บสัตว์
                  เขาสัตว์ เป็นอาวุธติดตัว ต่อมาจึงคิดค้นวัสดุอื่นเข้ามาเป็นอาวุธแทน เช่น หิน
                  ไม้ โลหะ แต่ยังใช้รูปแบบของธรรมชาติ เช่น กระดูกสัตว์ ก้างปลา เขาสัตว์ที่
                  แหลมคม เป็นต้นแบบท�าเป็นมีด หอก ดาบ เป็นต้น
                         ๕.  ประสบการณ์ การลองผิดลองถูกเพื่อประโยชน์ใช้สอยและ
                  ความสะดวกสบาย เช่น เมื่อมนุษย์เริ่มรู้จักวิธีการเพาะปลูก มนุษย์ใช้มือขุดดิน
                  ให้เป็นหลุม แต่มักไม่ค่อยได้ผล เพราะเจ็บมือ จึงคิดวิธีหาไม้มาขุด มาท�าคราด
                  เหล่านี้ล้วนเกิดจากประสบการณ์และการทดลองทั้งสิ้น

                         การทรงไว้ซึ่งความรู้ เมื่อมีประสบการณ์มากขึ้นเกิดเป็นองค์ความรู้
                  ท�าอย่างไรให้องค์ความรู้นั้นคงอยู่ได้มนุษย์มีวิธีการหลายวิธีเช่น
                         ๑.  จดจ�าไว้ในความทรงจ�า มนุษย์มีความสามารถในการจ�าและการลืม
                  มนุษย์จะจ�าในสิ่งที่ควรจ�าเท่านั้นหากมนุษย์จดจ�าสิ่งที่ผ่านมาทั้งหมดในชีวิต
                  อาจจะท�าให้สับสนเลอะเลือนได้ เปรียบกับต้นไม้ที่เติบโตงอกงาม จ�าเป็นต้อง
                  ทิ้งใบเก่าออกไปบ้าง
                         ๒.  การทรงความรู้ไว้โดยการปฏิบัติ การปฏิบัติที่สามารถท�าให้จ�าได้ดี

                  คือ การท�าซ�้าบ่อย ๆ จึงจะก่อให้เกิดความช�านาญ หรือทักษะเกิดขึ้น หากไม่ท�า
                  ซ�้า ๆ อาจจะลืมได้
                         ๓.  การทรงความรู้ โดยการคิดท�าเป็นสูตรส�าเร็จ เช่น การจักสาน
                  ก็จะมีสูตร เช่น ยก ๒ ข่ม ๓ ยก ๔ ข่ม ๓ ทุกที กลับมาทีนี้ ยก ๔ ข่ม ๒ หรือ
                  สูตรการยาเรือก็จะใช้วิธีการยาข้างนอก ยาขัน ยาจอกให้ยาด้านใน เป็นต้น









            ศิลปหัตถกรรมของชาติพันธุ์ลาวแง้ว                                                                                               จุติรัช อนุกูล
   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22