สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี

ของดีท้องถิ่นจังหวัดลพบุรี : ผ้าทอ ผ้ามัดหมี่ และผ้าขาวม้า

pa5
ลายกุหลาบ 2,000 ปี ผ้ามัดหมี่โบราณ ลายผีเสื้อ ลายหมีขอ
       
ลายเบี่ยง ลายตะขอ ผ้าทอ ลายซุ้มปราสาท

 

วัสดุของเนื้อผ้า
           แต่เดิมในอดีตชาวไทยพวน อำเภอบ้านหมี่ หรือเรียกตามภาษาถิ่นคือชาวพวนบ้านหมี่จะทอผ้าโดยใช้ไหมแท้ และฝ้ายแท้ โดยการเตรียมเส้นไหมและเส้นด้ายเอง ย้อมสีเอง แต่มีปัญหาสีตก ต่อมาจึงทอด้วยฝ้ายและใยสังเคราะห์ที่เรียกว่า ไหมสำเร็จรูป หรือไหมประดิษฐ์  เนื่องจากมีความเหนียวเส้นเล็ก และสีไม่ตกมีทั้งที่ย้อมสีสำเร็จรูปแล้วและที่ต้องนำมาย้อมสีเอง
          วิธีการทำผ้า

                การทอผ้าของชาวพวนบ้านหมี่ แต่เดิมจะทอด้วยหูกมือหรือกี่มือ ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นทอด้วยกี่กระตุก ทำให้ทอผ้าได้คุณภาพดีมีปริมาณมากขึ้น สีของผ้าส่วนมากเป็นสีค่อนข้างเข้มเพราะใช้ไหมเส้นยืนเป็นสีดำหรือสีเข้ม สีของไหมเส้นพุ่งจะมีทุกสีซึ่งผ้าทอบ้านหมี่จะแบ่งเป็นหลายลักษณะ คือ 
                1. ผ้ามุ้ง  เป็นผ้าทอเนื้อบาง จะทอเป็นลายทางและใช้เส้นด้ายไม่ฟอกสี (สีด้ายดิบ) ใช้ด้าย เส้นเดียวเบอร์ 20 ตลอดทั้งผืน 
                2. ผ้าขาวม้า ปัจจุบันนิยมทอด้วยใยสังเคราะห์ จะได้ผ้าเนื้อละเอียด สีสวยลวดลายที่เป็นแบบเฉพาะของผ้าขาวม้า บ้านหมี่  คือ ลายไส้ปลาไหล และลายตาม่อง 
                3. ผ้ามัดหมี่  เป็นผ้าทอด้วยไหมประดิษฐ์ผสมกับด้าย โดยใช้ด้ายเป็นเส้นยืนและใช้ไหมประดิษฐ์ซึ่งมัดเป็นเปลาะ ๆ นำไปย้อมสีให้เป็นลายใช้เป็นเส้นพุ่ง ซึ่งจะมีลายน้ำไหลหรือลายสายฝน ผ้ามัดหมี่ลายโลด (หมี่โลด) ผ้ามัดหมี่ลายเปี่ยง (หมี่เปี่ยง) ผ้ามัดหมี่ลายลาย (หมี่ลายหรือ หมี่ตา) 
                4. ผ้าซิ่นทิว  เป็นผ้าพื้นสีดำมีลวดลายทางขวางเป็นริ้วสลับสี ใช้เป็นผ้านุ่งสำหรับผู้หญิง แต่ปัจจุบันไม่มีการทอเพราะมีโรงงานผลิตผ้าทอประเภทนี้มาก 

          การนำผ้าทอมาประยุกต์ใช้
           ผ้าทอบ้านหมี่นั้นแต่เดิมทอเพื่อใช้เป็นผ้าขาวม้า และผ้าซิ่น แต่ปัจจุบันผ้าทอของบ้านหมี่เป็นที่นิยมของคนทั่วไป เพราะคุณภาพดี มีลักษณะเหมือนผ้าไหม สีไม่ตก ลวดลายสวยงาม มีความทนทาน วิธีเก็บรักษาง่าย ซักและรีดง่าย ประชาชนทั่วไปนิยมนำไปตัดเป็นเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายที่ใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไป