สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี
ข้อมูลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยได้แบ่งออกเป็น 12 หัวข้อ ดังนี้
ทำเนียบองค์การบริหารส่วนตำบล อบต.
องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) จังหวัดลพบุรี จังหวัดลพบุรีมีองค์การบริหารส่วนตำบล 114 เทศบาล 12 แห่ง
อำเภอเมืองลพบุรี
อำเภอพัฒนานิคม
อำเภอโคกสำโรง
อำเภอหนองม่วง
อำเภอสระโบสถ์
อำเภอโคกเจริญ
อำเภอชัยบาดาล
กิ่งอำเภอลำสนธิ
อำเภอท่าหลวง
อำเภอท่าวุ้ง
อำเภอบ้านหมี่
เทศบาลในเขตจังหวัดลพบุรี
ความรู้เกี่ยวกับองค์การบริหารส่วนตำบล อบต.
สภาตำบล พระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 กำหนดพื้นที่ตำบล ตามกฎหมายลักษณะปกครองท้องที่ ส่วนที่อยู่นอกเขตเทศบาล และสุขาภิบาล มีสภาตำบลเป็นองค์กรที่ทำหน้าที่บริหารงานในตำบลมีฐานะเป็นนิติบุคคล มีอำนาจหน้าที่ในการก่อนิติสัมพันธ์กับบุคคลอื่น และมีความสามารถ ในการจัดทำโครงการและงบประมาณด้วยตนเอง ปัจจุบันมีสภาตำบลนิติบุคคล จำนวน 567 แห่ง
สภาตำบลมีโครงสร้างที่เป็นไปในรูปแบบของคณะกรรมการ ดังนี้
1. สมาชิกสภาตำบลโดยตำแหน่ง ได้แก่ ผู้ใหญ่บ้านของทุกหมู่บ้านในตำบลและแพทย์ประจำตำบล
2. สมาชิกสภาตำบล ซึ่งได้รับเลือกตั้งจากราษฎรในแต่ละหมู่บ้านในตำบลนั้น หมู่บ้านละ 1 คน
กำนันมีตำแหน่งเป็นประธานสภาตำบลโดยตำแหน่ง มีรองประธานสภาตำบลคนหนึ่ง ซึ่งมาจากสมาชิกสภาตำบลตามมติของสภาตำบล และมีเลขานุการสภาตำบลคนหนึ่ง ซึ่งสภาตำบลเลือกจากข้าราชการที่ปฏิบัติงานในตำบลนั้น หรือจากบุคคลอื่นตามมติของสภาตำบลแล้วเสมอให้นายอำเภอแต่งตั้ง
อำนาจหน้าที่ของสภาตำบล พัฒนาตำบลตามแผนงานโครงการงบประมาณของสภาตำบล เสนอแนะส่วนราชการในการบริหารราชการและพัฒนาตำบล ปฏิบัติหน้าที่ของ คณะกรรมการตำบลตามกฎหมายว่าด้วยลักษณะปกครองท้องที่ (พระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2457) และหน้าที่อื่น ตามที่กฎหมายกำหนด (ม.23) ในกรณีที่สภาตำบลจะดำเนินกิจการของตนเองนอกเขตตำบลจะต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ว่าราชการจังหวัด และได้รับความยินยอม จากสภาตำบล หรือหน่วยการบริหารส่วนราชการส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง และกิจการนั้นต้องมีความจำเป็น และอยู่ในอำนาจหน้าที่ของสภาตำบลด้วย
การบริหารงานของสภาตำบล สภาตำบลบริหารงานในรูปแบบของคณะกรรมการ โดยมีประธานสภาตำบลเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินกิจการตามมติของสภาตำบล ภายใต้ขอบเขตที่กฎหมายกำหนดไว้ ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของสภาตำบล ในการทำนิติกรรมของสภาตำบลจะต้องประกอบด้วยบุคคลสามคน คือ ประธานสภาตำบล เลขานุการสภาตำบล และสมาชิกสภาตำบลผู้รับมอบอำนาจในการทำนิติกรรมอีกคนหนึ่ง ซึ่งในการทำนิติกรรมผู้มีอำนาจทำนิติกรรมแทนสภาตำบล จะต้องลงชื่อ ให้ครบทั้งสามคน มิฉะนั้นนิติกรรมนั้นจะไม่มีผลผูกพันสภาตำบล
การกำกับดูแลสภาตำบล ต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของนายอำเภอและผู้ว่าราชการจังหวัด โดยนายอำเภอ จะเป็นผู้กำกับดูแลปฏิบัติงาน ของสภาตำบลให้เป็นไปตามกฎหมาย มีอำนาจยับยั้ง การดำเนินงานของสภาตำบล ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือก่อให้เกิดความเสียหาย แก่ทางราชการไว้เป็นการชั่วคราว แล้วรายงานผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อวินิจฉัย เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดได้รับเรื่องจากนายอำเภอแล้วจะวินิจฉัยเป็น 2 กรณี กล่าวคือ หากผู้ว่าราชการจังหวัด เห็นว่านายอำเภอดำเนินการถูกต้องแล้ว ก็ให้สั่งสภาตำบลระงับการดำเนินการดังกล่าวนั้น แต่หากว่าผู้ว่าราชการจังหวัด เห็นว่าการดำเนินการของสภาตำบล เป็นไปโดยชอบแล้วก็ให้สั่งการเพิกถอนยับยั้งของนายอำเภอได้ นอกจากนั้นพระราชบัญญัติฉบับนี้ ยังให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัด ในการยุบสภาตำบล ตามการเสนอแนะของนายอำเภอได้
องค์การบริหารส่วนตำบล
องค์การบริหารส่วนตำบลได้จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติ ระเบียบบริหารราชการส่วนตำบล พ.ศ.2499 เป็นการจัดตั้งหน่วยงานบริหารราชการส่วนท้องถิ่น มีฐานะเป็นนิติบุคคล มีการบริหารตนเอง และมีสภาตำบลทำหน้าที่ควบคุมการบริหารงานของคณะกรรมการตำบล แต่เนื่องจากขาดประสิทธิภาพในการทำงาน จึงถูกยกเลิกไป
ในปี พ.ศ.2515 รัฐบาลเห็นว่าควรจะมีการปรับปรุงรูปแบบการจัดการบริหารของตำบลให้มีประสิทธิภาพและเป็นรูปแบบเดียวกันทั้งประเทศ สภาตำบลจึงไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคล จึงขาดอิสระในการทำงานประชาชนไม่สนใจเข้ามามีส่วนร่วมกับการดำเนินงานของสภาตำบล
จากแนวคิดกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นรัฐบาลจึงออกพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 มีฐานะเป็นนิติบุคคล มีอิสระในการบริหารงานประชาชนในท้องถิ่นแล้ว ยังได้กำหนดรูปแบบการบริหารงานในตำบลที่มีรายได้โดยไม่รวมเงินอุดหนุนในปีงบประมาณที่ล่วงมาติดต่อกันสามปีเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าปีละหนึ่งแสนห้าหมื่นบาท จะได้รับการจัดตั้งเป็นหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่นที่เรียกว่า " องค์การบริหารส่วนตำบล " ซึ่งในปัจจุบันมีจำนวนทั้งสิ้น 6,397 แห่ง
ซึ่งมีส่วนร่วมในการเลือกผู้บริหารและฝ่ายนิติบัญญัติมีงบประมาณเป็นของตนเอง เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ.2540 เกี่ยวกับการปกครองส่วนท้องถิ่นที่ระบุว่าสมาชิกสภาท้องถิ่นต้องมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน มีวาระ 4 ปี คณะผู้บริหารท้องถิ่น มาจากการเลือกตั้ง โดยตรงของประชาชน หรือมาจากความเห็นชอบของสภาท้องถิ่น มีวาระ 4 ปี โดยไม่ต้องเป็นข้าราชการ ไม่เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น
โครงสร้างขององค์การบริหารส่วนตำบล แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
1. สภาองค์การบริหารส่วนตำบล ประกอบด้วยสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล จำนวนหมู่บ้านละ 2 คน ซึ่งเลือกตั้งขึ้นโดยราษฎรผู้มีสิทธิเลือกตั้งในแต่ละหมู่บ้านในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลนั้น (มาตรา 45) ซึ่งได้แก้ไขแล้วโดย (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2542
ไม่มีการแต่งตั้งสมาชิกโดยตำแหน่งอีกต่อไป ถ้าเขต อบต. ใดมีเพียง 1 หมู่บ้าน ให้มีสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลเพียง 6 คน ถ้ามีเพียง 2 หมู่บ้าน ให้มีสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลหมู่บ้านละ 3 คน มีอายุอยู่ในตำแหน่งคราวละ 4 ปี นับแต่วันเลือกตั้ง
หลักเกณฑ์และวิธีการสมัครรับเลือกตั้งและการเลือกตั้งให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น (มาตรา 45 วรรค 3 (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2542)
สภาองค์การบริหารส่วนตำบลมีประธานสภาหนึ่งคน รองประธานสภาหนึ่งคน ซึ่งเลือกจากสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ให้นายอำเภอแต่งตั้งตามมติของสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ทั้งสองตำแหน่งอยู่ในวาระได้เพียง 2 ปี (มาตรา 48 และ 49)
สภาองค์การบริหารส่วนตำบลเลือกสมาชิกคนหนึ่งเป็นเลขานุการสภาองค์การ (มาตรา 57) ส่วนเลขานุการของคณะกรรมการบริหาร อบต. นั้นกฎหมายกำหนดให้เป็นปลัด อบต. (มาตรา 58 แก้ไขเพิ่มเติมโดย (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2542)
2. คณะกรรมการบริหารองค์การบริหารส่วนตำบล
ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พศ.2537 ประกอบด้วยกรรมการ ซึ่งนายอำเภอแต่งตั้งตามมติ ของสภาองค์การบริหารส่วนตำบลจากกำนัน และจากผู้ใหญ่บ้านไม่เกินสองคน และจากสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลซึ่งได้รับเลือกตั้งไม่เกินสี่คน คณะกรรมการบริหารส่วนตำบล มีประธานกรรมการบริหารคนหนึ่ง เลือกจากกรรมการบริหารด้วยกัน แต่ในบทเฉพาะกาล กำหนดให้กำนัน เป็นประธานกรรมการบริหารองค์การบริหารส่วนตำบลโดยตำแหน่ง ในระยะเวลา 4 ปีแรกที่ใช้พระราชบัญญัตินี้ (จนถึงงันที่ 2 มีนาคม 2542)
โบราณสถาน-แหล่งโบราณคดี
สถานที่ท่องเที่ยว : ธรรมชาติ
สถานที่ท่องเที่ยว : วัด
พิพิธภัณฑ์
ศูนย์วัฒนธรรม และศูนย์ข้อมูล
แหล่งเรียนรู้ต่างๆ
โครงการพระราชดำริ
ตราประจำจังหวัด
ตราประจำจังหวัด เป็นรูปพระนารายณ์ประทับยืนบนแท่นหน้าพระปรางค์สามยอด
ความหมาย : เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ที่ทรงสถาปนาลพบุรี เป็นเมืองหลวง เมื่อ พ.ศ. 2208 และสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับแผ่นดินลพบุรี นับอเนกอนันต์ ส่วนรูปพระปรางค์สามยอดนั้นเป็นโบราณสถานที่ถือเป็นสัญลักษณ์เมืองลพบุรี
สัญลักษณ์ประจำจังหวัด
คำขวัญประจำจังหวัดลพบุรี
วังนารายณ์คู่บ้าน ศาลพระกาฬคู่เมือง ปรางค์สามยอดลือเลื่อง เมืองแห่งดินสอพอง เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เกริกก้อง แผ่นดินทองสมเด็จพระนารายณ์
ความหมาย : เป็นคำขวัญที่แสดงให้ทราบสถานที่สำคัญ ที่เป็นโบราณสถานที่สำคัญที่เด่นของ จังหวัดลพบุรี ได้แก่ พระนารายณ์ราชนิเวศน์ ศาลพระกาฬ พระปรางค์สามยอด เป็นจังหวัดที่มีการทำ ดินสอพองมาตั้งแต่โบราณ และเป็นดินสอพองที่ดีที่สุดในเมืองไทย เป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรือมากที่สุดในทุกด้านหรือที่เรียกว่ายุคทอง คือในช่วงรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
ต้นไม้ประจำจังหวัดลพบุรี
พิกุล ( Bullet Wood) ชื่อวิทยาศาสตร์ Mimusops elengi Linn.
ชื่ออื่น กุน แก้ว และซางดง
ลักษณะ เป็นไม้ยืนต้นสูง 10-20 เมตร เรือนยอดแน่นทึบ เปลือกสีเทาอมน้ำตาล ใบเดี่ยวเรียงสลับ แผ่นใบรูปไข่แกมรูปหอก กว้าง 2-5 เซนติเมตร ยาว 5-10 เซนติเมตร ปลายเรียว มีดอกสีขาวปนเหลือง กลิ่นหอม ออกดอกตามง่ามใบ ออกดอกตลอดปี ผลรูปไข่ปลายแหลม กว้างประมาณ 1.8 เซนติเมตร ยาว 3 เซนติเมตร ผลสุกสีแสด เนื้อในผลสีเหลือง รสหวาน มี 1 เมล็ด ปลูกเป็นไม้ประดับและให้ร่มเงา ขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด
แผนที่จังหวัดลพบุรี
ความเป็นมาของจังหวัดลพบุรี
ลพบุรีเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานเพราะปรากฏร่องรอยการอยู่อาศัยของมนุษย์ติดต่อกันนานนับแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ไม่น้อยกว่า 3,000-4,000 ปีมาแล้ว จากการค้นพบหลักฐานทางโบราณคดีจำนวนมาก และมีหลักฐานเอกสาร จารึกกล่าวถึงเมืองลพบุรี อยู่หลายประการเช่นในพุทธศตวรรษที่ 11-15 มีหลักฐานคือพงศาวดารเหนือกล่าวถึงพระยากาฬวรรรณดิศได้ให้พราหมณ์ยกพลมาสร้างเมืองละโว้ตั้งแต่ พ.ศ.1002 นอกจากนี้ยังมีตำนานชินกาลมาลีปกรณ์กล่าวถึงการสร้างเมืองหริภุญไชยใน พ.ศ.1204 ต่อมาอีก 2 ปี คือ พ.ศ.1206 ได้ส่งทูตล่องลำน้ำปิงไปเมืองลวปุระทูลขอเชื้อสายกษัตริย์ลวปุระให้ไปปกครอง กษัตริย์ลวปุระจึงได้พระราชทานพระนางจามเทวี พระราชธิดา ให้ไปครองเมืองหริภุญไชย ชื่อเมืองลวปุระในตำนานชินกาลมาลีปกรณ์เป็นที่ยอมรับว่าคือเมืองลพบุรีในปัจจุบัน จึงสรุปได้ว่าลพบุรีคงเป็นเมืองสำคัญเมืองหนึ่ง แว่นแคว้นอื่นจึงได้ยอมรับและขอเชื้อสายไปปกครอง
ในระยะราวพุทธศตวรรษที่ 16-18 ละโว้หรือลพบุรีตกอยู่ภายใต้อำนาจทางการของอาณาจักรกัมพูชาเป็นครั้งคราวปลายพุทธศตวรรษที่18 เกิดความอ่อนแอในอาณาจักรกัมพูชาทำให้รัฐต่างๆ ที่เคยอยู่ใต้อำนาจปลีกตัวเป็นอิสระ รวมทั้งละโว้ด้วย ในราวพุทธศตวรรษที่ 19 ปรากฏหลักฐานว่าเมืองลพบุรี น่าจะเป็นเมืองที่พระเจ้าอู่ทองเคยครองราชย์มาก่อนที่จะย้ายไปสถาปนาอาณาจักรอยุธยา และในสมัย กรุงศรีอยุธยานี้เองที่ลพบุรีเจริญรุ่งเรืองที่สุด เพราะสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (ครองราชย์ พ.ศ.2199-2231) ได้สถาปนาลพบุรีเป็นราชธานีที่สอง หลังแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแล้วลพบุรีขาดความสำคัญลงมากจนกระทั่งถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้โปรดสถาปนาเมืองลพบุรีเป็นที่ประทับอีกแห่งหนึ่งจึงเห็นได้ว่าเมืองลพบุรีมีความสำคัญติดต่อกันมา ยาวนานนับพันปี
สภาพทั่วไปของจังหวัดลพบุรี
1. สภาพทางภูมิศาสตร์
1.1 ที่ตั้งและอาณาเขต จังหวัดลพบุรีตั้งอยู่ในภาคกลางของประเทศไทย ระหว่างเส้นรุ้งที่ 47 องศา 37 ลิปดาเหนือ และเส้นแวงที่ 100 องศา 25 ลิปดาตะวันออก อยู่ห่างจากรุงเทพมหานครไปทางเหนือตามเส้นทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน ประมาณ 155 กิโลเมตร หรือทางรถไฟสายเหนือประมาณ 133 กิโลเมตร มี พื้นที่ 6,586.67 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 4,116,668 ไร่ มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดต่าง ๆ 8 จังหวัด ดังนี้
- ทิศเหนือติดต่อกับเพชรบูรณ์และนครสวรรค์
- ทิศใต้ติดต่อกับพระนครศรีอยุธยาและสระบุรี
- ทิศตะวันออกติดต่อกับนครราชสีมาและชัยภูมิ
- ทิศตะวันตกติดต่อกับสิงห์บุรีและอ่างทอง
1.2 ลักษณะภูมิประเทศ ภูมิประเทศของจังหวัดลพบุรี แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ คือ
(1) ที่ราบลุ่ม มีพื้นที่ 1,170 ตารางกิโลเมตร เป็นพื้นที่ของอำเภอท่าวุ้งทั้งหมด ตอนกล และตะวันตกของอำเภอเมืองลพบุรี ตอนกลางและตะวันตกเฉียงใต้ของอำเภอโคกสำโรง และส่วนใหญ่ของอำเภอบ้านหมี่ พื้นที่ราบตอนกลางของอำเภอเมืองลพบุรี บริเวณหมู่บ้านสะพานอิฐ และหมู่บ้านหินสองก้อนจะมีดินสีขาวที่สามารถนำมาทำดินสอพองได้ และดินสอพองของจังหวัดลพบุรีได้ชื่อว่าเป็นดินสอพองที่ดี ที่สุดของเมืองไทย
(2) ที่ราบสลับเนินเขาและภูเขา มีเนื้อที่ 4,816.67 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ด้านตะวันออกของอำเภอเมืองลพบุรี ทิศตะวันตกเฉียงเหนือของอำเภอบ้านหมี่บางส่วน ทิศตะวันตกเฉียงเหนือและตะวันออกของอำเภอโคกสำโรงและอำเภอท่าหลวง
1.3 ลักษณะภูมิอากาศ
สภาพโดยทั่วไปมีภูมิอากาศแบบร้อนชื้น อยู่ภายใต้อิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และยังได้รับอิทธิพลจากพายุดีเปรสชั่นและพายุใต้ฝุ่นอีกด้วยโดยเฉพาะในช่วงเดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายน มีอุณหภูมิเฉลี่ย 28.3 องศาเซลเซียส มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยปีละประมาณ 1,147.6 มิลลิลิตร สำหรับมีฤดูกาลต่างๆ มี 3 ฤดู คือ
ฤดูร้อน ระหว่างเดือน มีนาคม-พฤษภาคม อากาศจะร้อน และแห้งแล้ง
ฤดูฝน ระหว่างเดือนมิถุนายน-ตุลาคม อากาศจะชุ่มชื้นในเดือนกันยายน
ฤดูหนาว ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ อากาศจะหนาวเย็นสลับกับอากาศร้อน
2. ประชากร
ประชากรของจังหวัดลพบุรีส่วนใหญ่เป็นชาวไทยภาคกลาง และมีชนเชื้อสายจีนปะปนอยู่ทั่วไป นอกจากนี้ยังมีชนเชื้อสายลาว ลาวพวน ส่วนใหญ่อยู่ในท้องที่อำเภอบ้านหมี่ ชนเชื้อสายมอญอาศัยอยู่ในเขตท้องที่ตำบลบางขันหมาก อำเภอเมืองลพบุรี ซึ่งชนเชื้อสายต่างๆ นี้ยังคงรักษาวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี ภาษาพูดที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง แต่ก็สามารถปรับตัวให้เข้ากับประชากรส่วนใหญ่ได้ดี
จังหวัดลพบุรีมีประชากร รวมทั้งสิ้น 839,397 คน เป็นชาย 421,004 คน หญิง 418,393 คน ความหนาแน่นของประชากรเฉลี่ยทั้งจังหวัดประมาณ 126 คนต่อตารางกิโลเมตร โดยอำเภอที่มีความหนาแน่นของประชากรมากที่สุดคือ อำเภอเมืองลพบุรี จำนวน 439 คนต่อ ตารางกิโลเมตร และอำเภอที่มีความหนาแน่นของประชากรน้อยที่สุดคือ อำเภอท่าหลวง ประมาณ 52 คนต่อตารางกิโลเมตร และมีประชากรในเขตอำเภอต่าง ๆ ดังนี้
อำเภอ
|
จำนวนประชากร (คน)
|
||
ชาย
|
หญิง
|
รวม
|
|
เมืองลพบุรี
|
158,273
|
146,327
|
304,600
|
โคกสำโรง
|
42,745
|
43,328
|
86,073
|
ชัยบาดาล
|
51,924
|
53,574
|
105,498
|
ท่าวุ้ง
|
26,040
|
28,405
|
54,445
|
บ้านหมี่
|
38,633
|
41,384
|
80,017
|
พัฒนานิคม
|
31,257
|
32,006
|
63,263
|
ท่าหลวง
|
15,899
|
16,071
|
31,970
|
สระโบสถ์
|
14,248
|
14,688
|
28,936
|
โคกเจริญ
|
12,220
|
12,111
|
24,331
|
ลำสนธิ
|
12,523
|
12,626
|
25,149
|
หนองม่วง
|
17,242
|
17,873
|
35,115
|
รวม
|
421,004
|
418,393
|
839,397
|
3. เขตการปกครอง
จังหวัดลพบุรีแบ่งเขตการปกครองเป็น 11 อำเภอ คือ อำเภอเมืองลพบุรี อำเภอโคกสำโรง อำเภอชัยบาดาล อำเภอท่าวุ้ง อำเภอบ้านหมี่ อำเภอพัฒนานิคม อำเภอท่าหลวง อำเภอสระโบสถ์ อำเภอโคกเจริญ อำเภอลำสนธิ และอำเภอหนองม่วง
จังหวัดลพบุรี แบ่งการปกครองออกเป็น 11 อำเภอ 122 ตำบล 1,126 หมู่บ้าน 1 องค์การบริหารส่วนจังหวัด 13 เทศบาล(2 เทศบาลเมือง 11 เทศบาลตำบล) และ 112 องค์การบริหารส่วนตำบล
อำเภอ
|
พื้นที่ (ตร.กม.)
|
ตำบล
|
หมู่บ้าน
|
เทศบาล
|
อบจ.
|
อบต.
|
ห่างจากจังหวัด (กม.)
|
1. เมืองลพบุรี |
565.613
|
24
|
219
|
3
|
1
|
19
|
0.3
|
2. โคกสำโรง |
982.456
|
13
|
137
|
1
|
-
|
13
|
35
|
3. ชัยบาดาล |
1,253.00
|
17
|
136
|
1
|
-
|
16
|
96
|
4. ท่าวุ้ง |
242.829
|
11
|
128
|
2
|
-
|
10
|
15
|
5. บ้านหมี่ |
585.697
|
21
|
157
|
1
|
-
|
20
|
31
|
6. พัฒนานิคม |
959.151
|
9
|
86
|
2
|
-
|
9
|
46
|
7. ท่าหลวง |
538.865
|
6
|
45
|
1
|
-
|
5
|
78
|
8. สระโบสถ์ |
304.605
|
5
|
46
|
1
|
-
|
3
|
64
|
9. โคกเจริญ |
317.140
|
6
|
53
|
-
|
-
|
5
|
77
|
10. ลำสนธิ |
447.000
|
6
|
48
|
-
|
-
|
6
|
123
|
11. หนองม่วง |
445.503
|
6
|
66
|
1
|
-
|
6
|
57
|
รวม
|
6,641.860
|
122
|
1,126
|
13
|
1
|
112
|
-
|
ที่มา : ที่ทำการปกครองจังหวัดลพบุรี
4. สภาพทางเศรษฐกิจและสังคม
สภาพทางเศรษฐกิจ ประชากรส่วนใหญ่ของจังหวัดลพบุรีประกอบอาชีพด้านเกษตรกรรม ทำนา ทำไร่ แต่มีแนวโน้มพัฒนาด้านเศรษฐกิจเป็นอุตสาหกรรมมากขึ้น มีการตั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตร เช่นโรงงานผลิตเมล็ดพันธุ์พืชและอบ เมล็ดพันธุ์พืช โรงงานผลิตอาหารสัตว์ โรงงานผลิตน้ำตาลทรายขาว โรงงานฆ่าและชำแหละไก่ โรงงานฟักไข่ ทำให้ประชากรมีแนวโน้มเปลี่ยนจากเกษตรกรเป็นอาชีพรับจ้างมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามอาชีพเกษตรกร ยังนับเป็นอาชีพพื้นฐานของจังหวัดลพบุรีอยู่ต่อไป
สภาพทางสังคมจังหวัดลพบุรีเป็นจังหวัดที่มีบริการด้านการศึกษาระดับดีพอสมควรมีสถานศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงระดับปริญญาตรี จำนวน 482 แห่ง ส่วนมากอยู่ในเขตอำเภอเมือง อัตราส่วนครูต่อนักเรียนโดยเฉลี่ยเท่ากับ 1: 18 คน มีสถานบริการด้านสาธารณสุข ภายใต้ความรับผิดชอบของภาครัฐและเอกชนจำนวน 15 แห่ง จำนวน 1533 เตียง กระจายตามอำเภอต่างๆ แต่ส่วนมากจะอยู่ในเขตอำเภอเมือง มีสถานีอนามัย 127 แห่ง คลินิกแพทย์ 67 แห่ง แต่ด้านสาธารณสุขยังมีปัญหาด้านการขาดแคลนบุคลากรสาธารณสุขและเครื่องมืออุปกรณ์ การแพทย์ยังไม่เพียงพอโดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล ด้านบริการไฟฟ้า มีบริการทั่วถึงทุกหมู่บ้านบริการน้ำประปาและโทรศัพท์เพียงพอแก่ความต้องการปัญหาด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมีคดีอาชญากรรมที่เกิดขึ้นค่อนข้างสูงคือคดีเกี่ยวกับประทุษร้ายต่อชีวิตเพศ ทรัพย์สิน และปัญหายาเสพติดที่แพร่ระบาดมากที่สุดคือ แอมเฟตตามีน หรือ"ยาบ้า" ซึ่งแพร่ระบาดในทุกเขตอำเภอในกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ผู้ขับขี่รถบรรทุก และเกษตรกรผู้ใช้แรงงานในไร่
2023 © Thepsatri Rajabhat University