สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี

enth

พิพิธภัณฑ์เรือพื้นบ้านวัดยาง ณ รังสี  

          พิพิธภัณฑ์เรือพื้นบ้านวัดยาง ณ รังสี ตั้งอยู่หมู่ที่ 2   ตำบลตะลุง อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี ตั้งอยู่ที่ศาลการเปรียญ(หลังเก่า)   เป็นที่จัดแสดงเรือพื้นบ้านที่เคยใช้เป็นพาหนะสัญจรทางน้ำในอดีต   เพราะชาวบ้านมีชีวิตผูกพันอยู่กับแม่น้ำและเรือพื้นบ้านตลอด   เรือบางชนิดก็ยังมีใช้อยู่ในปัจจุบัน เช่น เรือหมู เรือบด เรือกระแชง เรือชะล่า   เรือป๊าป เรือผีหลอก เรือพายม้า เรือมาด เรือสำปั้นหรือสามปั้น เรือเข็มหรือเรือโอ่   เรือยาว เรืออีโปง เรือเอี้ยมจุ๊น ฯลฯ มีเรือประมาณ 60 ลำ   นอกจากนี้ยังมีเรือยาวลำใหญ่ซึ่งเป็นเรือในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชอยู่ 1 ลำ คือเรือมาด
           เรือที่หาดูได้ยากที่สุดในประเทศไทยคือ เรือเข็ม, เรือหางเหยี่ยว, เรือชะล่า และเรืออีโปง



           ศาลาการเปรียญ(หลังเก่า) สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2470   ตั้งอยู่ริมแม่น้ำลพบุรี   เป็นศาลาที่มีความสวยงามได้สัดส่วนและมีคุณค่าทางศิลปะอย่างยิ่ง   เมื่อปีพ.ศ. 2525 ศาลาหลังนี้ได้ชำรุดทรุดโทรมมาก   วัดยาง ณ รังสีจึงได้สร้างศาลากาลเปรียญคอนกรีตขึ้นมาใหม่ และจะรื้อศาลาเก่าหลังนี้แต่ อาจารย์ภูธร ภูมะธน ขณะนั้นทำหน้าที่เป็นหัวหน้าพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสมเด็จพระนารายณ์ และชมรมอนุรักษ์โบราณวัตถุสถานและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลพบุรี ได้ขอร้องให้วัดรักษาศาลาการเปรียญหลังนี้ไว้   เพราะศาลาการเปรียญที่ทำด้วยไม้สวยงามเช่นนี้นับวันจะหมดสิ้นไป   เพื่อเป็นการอนุรักษ์ไว้ ทางวัดยาง ณ รังสี เห็นชอบและขอร้องให้หาทุนมาช่วยบูรณะซ่อมแซมศาลา   ต่อมาได้จัดให้มีการทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อนำปัจจัยมาบูรณะซ่อมแซมศาลาการเปรียญถึง   2 ครั้ง คือในปี พ.ศ. 2529 และพ.ศ. 2531 การดำเนินการซ่อมแซมจึงแล้วเสร็จ   และได้เริ่มใช้ศาลาหลังนี้เป็นพิพิธภัณฑ์เรือพื้นบ้านขึ้น
           ลักษณะทางสถาปัตยกรรมของศาลาการเปรียญวัดยาง ณ รังสี เป็นศาลาไม้ทรงไทย โถงยาว 26 เมตร กว้าง 12.50 เมตร ใต้ถุนสูง หลังคาปีกนกซ้อนกัน 3 ชั้น เดิมหลังคาปีกนกมุงด้วยสังกะสีและได้ทำการบูรณะซ่อมแซมเปลี่ยนเป็นมุงด้วยกระเบื้อง ส่วนพื้นที่หน้าจั่วด้านหน้าและด้านหลังของศาลาแกะสลักไม้ลายนูนปิดทองประดับกระจกเป็นรูปเทพารักษ์นั่งในซุ้มลายทอง สลักเป็นรูปเทพพนมประกอบลายก้านขด มีเครืื่องประดับหลังคาเป็นช่อฟ้านาคเลื้อยอย่างสวยงาม มีบันไดด้านทิศใต้และทิศตะวันตกลงศาลาท่าน้ำ
           ผู้ออกแบบศาลาคือ นายปั่น แตงบู่ ช่างไม้ในหมู่บ้าน มีเรื่องเล่ากันว่าผู้ออกแบบได้จำลองรูปแบบอาคารมาจากภาพศาลาที่อยู่ในธนบัตรใบละ 1 บาท ที่พิมพ์ในสมัยรัชกาลที่ 8 มาวาดลงพื้นดิน แล้วสร้างแบบจำลองโดยใช้ไม้โสนและได้ทำการขยายแบบและทำการก่อสร้าง

           พิพิธภัณฑ์เรือพื้นบ้านวัดยาง ณ รังสี เปิดเป็นทางการเมื่อวันที่ 12   พฤศจิกายน พ.ศ. 2533 พิพิธภัณฑ์เรือพื้นบ้านที่วัดยาง ณ รังสี   เป็นแห่งแรกของประเทศไทยที่เก็บเรือพื้นบ้านเป็นพิพิธภัณฑ์ที่แสดงถึงมรดกสำคัญที่เกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในท้องถิ่น   ทั้งยังเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับทุกคนที่ไปเที่ยวชม

การเดินทางใช้เส้นทางสายลพบุรี-บ้านแพรก(ถนนเลียบคลองชลประทาน) ห่างจากอำเภอเมืองลพบุุรี ประมาณ 8 กโลเมตร มีรถประจำทางสายลพบุรี-บ้านแพรก-อยุธยาผ่านหน้าวัด โทร. 036-656390, 08-18578761