ประเพณีรำโทน
รำโทน เป็นการละเล่นพื้นบ้านชนิดหนึ่งของชาวบ้านเมืองลพบุรี นิยมเล่นกันแพร่หลายในระหว่าง พ.ศ. 2484 - 2488 หรือในช่วงเกิด
สงครามโลกครั้งที่ 2 หลังสงครามเลิกความนิยมเล่นรำโทนลดลงตามลำดับ ส่วนหนึ่งพัฒนาไปเป็นการละเล่น " รำวง " และ " รำวงมาตรฐาน " ในที่สุด
เหตุที่เรียกชื่อว่ารำโทน เพราะเดิมเป็นการรำประกอบจังหวะการตี " โทน " ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีหลัก ในการเล่น ภายหลังแม้ใช้เครื่องดนตรีอื่น เช่น รำมะนา ตีให้จังหวะแทนก็ยังเรียกชื่อเช่นเดิม
อุปกรณ์และวิธีเล่น
เครื่องดนตรี เดิมใช้ "โทน" ตีในจังหวะ " ป๊ะ โท่น ป๊ะ โท่น ป๊ะ โท่น โท่น " หรือ " ป๊ะ โท่น โท่น ป๊ะ โท่น โท่น " ใช้โทนใบเดียวหรือหลายใบก็ได้ ต่อมานิยมใช้ " รำมะนา " แทนเพราะเสียงดังไพเราะและเร้าใจดีกว่า อาจใช้อุปกรณ์อื่น ๆ เช่น ถังน้ำมันตีให้จังหวะแทนก็ได้ นอกจากนี้อาจจะใช้ฉิ่งตีให้จังหวะได้อีกด้วย
เพลงที่ใช้ร้องมักเป็นเพลงที่มีเนื้อร้องง่าย ๆ เป็นเพลงสั้น ๆ ไม่มีชื่อเพลงเฉพาะมักเรียกชื่อตาม วรรคแรกของเนื้อร้อง ไม่บอกชื่อผู้แต่งใครอยากแต่งขึ้นมาใหม่ก็ได้ จำกันร้องตามกันต่อ ๆ มา เนื้อร้อง มักเป็นการเกี้ยวพาราสี ปลุกใจหรือสะท้อนชีวิตความเป็นอยู่หรือมาจากวรรณคดีไทย เช่น เพลงลพบุรีของเรานี่เอ๋ย เจ็ดนาฬิกา ใครรักใครโค้งใคร เชื่อผู้นำของชาติ ศิลปากร ฯลฯ
วิธีเล่น ผู้เล่นชายจะโค้งชวนหญิงออกมารำเป็นคู่ ๆ ช่วยกันร้องไปรำตามกันไปเป็นวง นักดนตรีก็ ตีโทนให้จังหวะเร้าใจ เพลงหนึ่ง ๆ จะร้องซ้ำ 3 - 4 เที่ยวก็จะเปลี่ยนเพลงต่อไป การรำไม่มีท่ารำแน่นอน ตายตัวมักเป็นการใส่ท่าตามเนื้อร้อง ใครต้องการรำคู่กับใครก็เปลี่ยนคู่รำกันตามใจ เด็ก ๆ หรือผู้มาดูก็ยืนล้อมวงรอบวงรำ อาจช่วยตบมือและร้องตามไปด้วยอย่างสนุกสนาน ผู้เล่นรำโทนแต่งกายสวยงาม ตามสบายตามสมัย ไม่มีระเบียบแบบแผนอะไรแน่นอนตายตัว
โอกาสหรือเวลาที่เล่น โอกาสที่เล่นรำโทน ไม่มีโอกาสที่แน่นอนชาวบ้านนึกอยากจะเล่นเมื่อใดก็ชวนกันมาเล่นที่ลานบ้านคนใดคนหนึ่ง จะเล่นตอนกลางคืนเท่านั้นมักเริ่มเล่นตอนหัวค่ำ เล่นกันไปเรื่อย ๆ จนไม่มีคนเล่นหรือง่วงนอนกันมากแล้วก็จะเลิกเล่น แยกย้ายกันกลับบ้านของตน
ในสมัยจอมพลป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรีมีการเล่นรำโทนอย่างแพร่หลายในจังหวัด ลพบุรี เล่นกันในกลุ่มชาวบ้านและข้าราชการ ถึงกับให้ข้าราชการ - ทหาร ฝึกรำโทน รำวงกันทุกวันพุธตอนเย็น ปัจจุบันยังมีการเล่นรำโทนกันบ้างในบางท้องถิ่น เช่น ที่ตำบลบางผึ้ง อำเภอบ้านหมี่ ตำบลท่าวุ้ง ตำบลบางคู้ อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรีเป็นต้น แต่ก็เป็นเพียงการละเล่นในกลุ่มย่อย ๆ ผู้เล่นมักเป็นคนสูงอายุที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ที่เคยเล่นเคยเห็นการรำโทนในสมัยสงครามมาก่อนทั้งสิ้น
หนุ่มสาวสมัยก่อนเล่นรำโทนเพื่อความสนุกสนานรื่นเริง เพื่อพักผ่อนหย่อนใจยามเหงาหรือยามสงครามที่ ค่ำลงก็ไม่มีอะไรจะทำกัน เป็นการเพิ่มชีวิตชีวาให้กับชีวิตที่ต้องอดออมและเสี่ยงภัยในยามสงคราม กล่าวได้ว่า รำโทนเป็นมหรสพยามค่ำคืนของชาวบ้านในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2