สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี

ป่าสงวนแห่งชาติซับลังกา

   


     ป่าซับลังกา อยู่ในอำเภอชัยบาดาลและอำเภอลำสนธิ เนื้อที่ 248,987.50 ไร่( 398.38   ตร.กม.) เป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่สุดของจังหวัดลพบุรี   โดยเฉพาะทางตอนเหนือซึ่งมีแนวติดต่อกับจังหวัดเพชรบูรณ์ และจังหวัดชัยภูมิ   ภายในป่าซับลังกามีต้นไม้มีค่าขึ้นอยู่ได้แก่ แดง ประดู่ เต็ง รัง ตะแบก ตะเคียน   ไผ่รวก และมีทรัพยากรแร่ธาตุ ได้แก่หินปูน สภาพภูมิประเทศทางตอนเหนือเป็น ภูเขาสูง   ตอนล่างเป็นที่ราบ
      ป่าซับลังกา   ได้รับการประกาศให้เป็นป่าสงวนแห่งชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2502   ต่อมาพื้นที่แห่งนี้ได้ถูกราษฎรเข้าบุกรุกครอบครองพื้นที่ รวมทั้งการลักลอบตัดไม้   ล่าสัตว์ป่า และหาของป่าเป็น จำนวนมากทำให้ป่าสงวนแห่งชาติเสื่อมโทรมลงอย่างรวดเร็ว   เมื่อปี พ.ศ. 2528 ได้อพยพราษฎรบางส่วน เข้าอยู่ในโครงการหมู่บ้านซับลังกา   และได้ทำการปลูกป่าทดแทนส่วนที่บุกรุก ต่อมาทางกรมป่าไม้ ได้มีการสำรวจพื้นที่ป่า   พบสัตว์ป่าอาศัยอยู่หลายชนิดได้จัดการดำเนินการประกาศเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า   เพื่อรักษาสัตว์ป่าและป่าให้คงอยู่ตลอดไป โดยมีพระราชกฤษฎีกากำหนดป่าซับลังกา   ให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2529   และประกาศในราชกิจจานุ เบกษา ฉบับพิเศษ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2529   มีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2530 และมีเนื้อที่ทั้งหมด 155   ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 96,875 ไร่
     ป่าซับลังกายังเปิดพื้นที่บางส่วนให้เป็นพื้นที่สำหรับศึกษาธรรมชาติ   เพื่อให้ประชาชนได้เห็นคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติ   และทำให้เกิดจิตสำนึกแห่งการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ   จัดทำเป็นเส้นทางสำหรับศึกษาธรรมชาติ (NATURE TRAIL)   หรือเส้นทางเดินป่าที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์   โดยนักท่องเที่ยวจะเข้ามาต้องปฏิบัติตามกฎกติกาอย่างเข้มงวด   เพื่อไม่เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม 

     สภาพป่าซับลังกาค่อนข้างสมบูรณ์ ประกอบไปด้วยป่าหลายชนิด   เช่น ป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง ป่าดิบชื้น ป่าเต็งรัง ป่ารวก ป่าไผ่ต่างๆ   ทุ่งดอกกระเจียว กล้วยไม้ชนิดต่างๆ และไม้พื้นล่างอีกหลายชนิด                                 นอกจากนี้ยังมีเขาและหน้าผาที่สวยงาม ได้แก่ เขาห้วยประดู่   เขาไม้แก้ว เขาผาแดง เขาผาผึ้ง เขาจันทร์ผา เขาผานกกก หน้าผาช่องน้ำน้อย   หน้าผาสุดแผ่นดิน และหน้าผาช่องคร้อ   มีแหล่งน้ำและแหล่งอาหารของสัตว์ป่าหลากหลายชนิดอาศัยอยู่
     ป่าซับลังกายังมีถ้ำและน้ำตกอยู่มากมาย เช่น ถ้ำสมุยกุย ถ้ำพระนอก   ถ้ำพระใน ถ้ำสีดา ถ้ำผาแดง ถ้ำผาผึ้ง ภ้ำผานกกก และถ้ำหนองใหญ่   ส่วนน้ำตกก็มีหลายแห่ง เช่น น้ำตกผึ้ง น้ำตกสามสาย   และห้วยน้ำคั้นซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำลำสนธิ ซึ่งไหลลงสู่แม่น้ำป่าสักที่บ้านบัวชุม   อำเภอชัยบาดจากนั้นก็ไหลลงเขื่อนป่าสัก 
     ป่าซับลังกาได้รับประกาศขึ้นทะเบียนเป็นป่าสงวนแห่งชาติซับลังกาตามประกาศกระทรวง   ฉบับที่ 66 (พ.ศ. 2502)   ในอดีตเป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์มีความหลากหลายทางชีวภาพมาก   ปัจจุบันสภาพพื้นที่และความสมบูรณ์ของป่าได้เสื่อมและลดลง มีพื้นที่รวม 248,98705   ไร่ ปัจจุบันพื้นที่ป่าสงวน ซับลังกามีการแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน
     1. พื้นที่ป่าอนุรักษ์   เป็นส่วนพื้นที่ป่าที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์มีจำนวน 116,567 ไร่
     2. พื้นที่ป่าเศรษฐกิจเป็นพื้นที่ส่วนที่มีการดำเนินการและมีการเข้าไปจัดทำใช้ประโยชน์   มีจำนวน 130,545.5 ไร่

     พื้นที่ทั้ง 2   ส่วนนี้ได้มีการกำหนดเขตพื้นที่ในโครงการต่างๆ
     
1. พื้นที่ทางตอนเหนือของป่าที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์   และเป็นแหล่งที่อยุ่อาศัยของสัตว์ป่า อาทิ หมูป่าไก่ป่า และนกนานาชนิด   ได้ประกาศให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกามีเนื้อที่ประมาณ 96,875 ไร่                                
     2. พื้นที่ตอนล่างของป่าไม้จัดให้มีโครงการหมู่บ้านป่าไม้ ในพื้นที่   58,500 ไร่
     3. พื้นที่ป่าเศรษฐกิจซึ่งทางกรมป่าไม้ได้มอบให้สำนักงาานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม   มีพื้นที่ 82,775 ไร่ 

     จะเห็นได้ว่าพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่คงเหลืออยู่ในปัจจุบันมีพื้นที่ไม่ถึงครึ่งของป่าสงวนแห่งชาติ   ที่ได้ประกาศไว้เมื่อปี พ.ศ. 2502   ป่าซับลังกามีสภาพความเป็นป่าที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งสุดท้ายของจังหวัดลพบุรี   มีอาณาบริเวณ ครอบครุมและอยู่ในเขตพื้นที่ตำบลกุดตาเพชร ตำบลเขารวก ตำบลหนองรี   ตำบลลำสนธิ กิ่งอำเภอลำสนธิ และตำบลเกาะรัง ตำบลนาโสม ตำบลหนองยายโต๊ะ ตำบลบัวชุม   อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี โดยมีแนวเขตติดต่อกับจังหวัดเพชรบูรณ์   จังหวัดชัยภูมิและจังหวัดนครราชสีมา