สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี

enth

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสมเด็จพระนารายณ์


          พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสมเด็จพระนารายณ์ เริ่มจัดตั้งขึ้นที่พระที่นั่งจันทรพิศาล เมื่ื่อวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ.2467 ในอดีตชื่อเรียกว่า "ลพบุรีพิพิธภัณฑสถาน" ผู้ที่มีส่วนสำคัญในการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์คือ
          สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ สมเด็จกรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ และศาสตราจารย์ยอร์ช เซเดส์ นักปราชญ์ชาวฝรั่งเศสผู้มีชื่อเสียงในความรู้เกี่ยวกับเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจุบันหมู่พระที่นั่งพิมานมงกุฎ และหมู่ตึกพระประเทียบบางหลังใช้เป็นอาคารจัดแสดงของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสมเด็จพระนารายณ์ ได้จัดแสดงศิลปะโบราณวัตถุและนิทรรศการตามอาคารต่างๆ ในบริเวณพระนารายณ์ราชนิเวศน์ ดังนี้



          หมู่พระที่นั่งพิมานมงกุฏ สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นอาคารหลักของการจัดแสดง(อาคารสูง 3 ชั้น)   

          ชั้น1 จัดแสดงนิทรรศการถาวร 2 เรื่อง คือ
          1.เรื่องศิลปโบราณวัตถุสมัยก่อนประวัติศาสตร์ภาคกลางของประเทศไทย   โบราณวัตถุที่แสดงส่วนใหญ่ได้จากการขุดค้นแหล่งโบราณคดีบ้านท่าแค อ.เมือง จ.ลพบุรี   เมื่อพ.ศ.2523 และ2526 มีภาชนะดินเผา พร้อมด้วยโครงกระดูกมนุษย์จำนวน 3 โครง ฯลฯ
          2.เรื่องอารยธรรมลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา พ.ศ.700-1400   เป็นการจัดแสดงประวัติศาสตร์สังคมยุคกึ่งก่อนประวัติศาสตร์ใช้ชื่อสมมติว่า "สมัยทวารวด" นำเสนอเรื่องการตั้งถิ่นฐาน มีภาพถ่ายทางอากาศ และแสดงรูปของการสร้างเมือง   แสดงโบราณวัตถุที่ทำจากต่างประเทศแต่พบในประเทศไทย เรื่องเทคโนโลยีและการดำเนินชีวิต เรื่องเครื่องประดับร่างกาย ฯลฯ
          จากนั้นจะเป็นห้องแสดงเรื่อง การขุดแต่งวัดนครโกษาที่กรมศิลปากรได้ดำเนินการขุดแต่งเมื่อ พ.ศ.2530   และได้พบว่าฐานของสถูปองค์กลางที่มีกองดินทับถมนั้น   เมื่อลอกดินออกได้พบลวดลายปูนปั้นประดับตกแต่งฐานมากมายหลายรูปแบบ   รวมถึงโบราณวัตถุต่างๆ เช่น พระพิมพ์ เศียรพระพุทธรูปมีอายุราวพุทธศตวรรษที่13-14 จัดมุมแสดงเรื่องอักษรและภาษา แสดงจารึกบนแท่งหินแผ่นดินเผาโดยใช้อักษรที่นำมาจากอินเดีย ห้องแสดงเรื่องศาสนาและความเชื่อจัดแสดงรูปเคารพเรื่องศาสนาฮินดู   ที่น่าสนใจมากที่สุดเท่าที่มีในประเทศไทยก็คือ   การจัดแสดงเรื่องสมัยประวัติศาสตร์ยุคแรก(สมัยทวารวดี)
          ชั้น2 หมู่พระที่นั่งพิมานมงกุฏ ห้องแรกจัดแสดงเรื่องสมัยอิทธิพลเขมร อายุราว พ.ศ.1500-1800 แสดงสถาปัตยกรรมทำด้วยหินทรายแบบเขมร   เช่นทับหลังสลักภาพพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ   ศิลาจารึกอักษรและภาษาเขมรที่พบที่เมืองลพบุรี ในส่วนที่เคยเป็นท้องพระโรงเล็ก   จัดแสดงรูปสลักหินทรายที่มีขนาดใหญ่   โดยมากเป็นพระพุทธรูปนาคปรกปางสมาธิขนาดใหญ่ที่แสดงความเป็นเอกลักษณ์ท้องถิ่นอย่างชัดเจน   จึงเรียกว่า ศิลปะแบบลพบุรี ฯลฯ
          ชั้น3 จัดแสดงเป็นห้องที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในฐานะที่พระองค์ทรงโปรดฯ   ให้สร้างพระที่นั่งองค์นี้   และเคยประทับอยู่ทางพิพิธภัณฑ์จึงได้จัดแสดงพระราชประวัติ   และพระราชกรณียกิจของพระองค์ รวมทั้งสิ่งของเครื่องใช้มีพระบรมฉายาลักษณ์ ฉลองพระองค์ พระแท่นบรรทม ตราประจำพระองค์ ฯลฯ
          ส่วนทางด้านห้องสุดท้ายของอาคารจัดเป็น "หอศิลปะ" มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เห็นวิวัฒนาการของงานศิลปะไทยสมัยใหม่ที่เป็นแบบสากลในยุคปัจจุบัน   โดยมีผลงานของจิตรกรจัดแสดงให้ชม เช่นงานของ อังคาร กัลยาณพงศ์




          พระที่นั่งจันทรพิศาลภายในพระที่นั่งแบ่งเป็นท้องพระโรงหน้า และท้องพระโรงใน   ในส่วนของท้องพระโรงหน้าได้จัดแสดงเรื่องราวสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช   มีรูปวาดสีน้ำมันในเหตุการณ์เมื่อครั้งมีการเข้าถวายพระราชสาส์นของพระเจ้าหลุยส์ที่14   แห่งประเทศฝรั่งเศส ต่อสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ณ ท้องพระโรงที่พระบรมราชวัง (อ.จำรัส เกียรติก้อง วาดภาพจากต้นฉบับพ.ศ.2509) และภาพประวัติศาสตร์ที่สำคัญ เช่นภาพออกพระวิสุทธิสุนทร(โกษาปาน) ภาพแผนที่แสดงเส้นทางการเดินทางไปและกลับจากฝรั่งเศสสู่สยามของราชฑูต ภาพแผนที่กรุงศรีอยุธยา ภาพแห่เรือ   นอกจากนี้ยังมีโบราณวัตถุที่มีอายุในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช   และโบราณวัตถุส่วนหนึ่งที่ขุดพบในบ้านเจ้าพระยาวิชาเยนทร์   สำหรับในส่วนท้องพระโรงด้านในจะพบตู้พระธรรม   ธรรมาสน์ที่มีอายุสมัยอยุธยาและรัตนโกสินทร์




          หมู่ตึกพระประเทียบ(อาคารจัดแสดงของใช้พื้นบ้าน) เป็นบริเวณเขตพระราชฐานชั้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว   บางตึกได้รับการปรังปรุงเป็นห้องจัดแสดงถาวรคือ อาคารที่เคยเป็นห้องเครื่อง(ห้องครัว) ปัจจุบันแสดงเป็นศิลปวัตถุพื้นบ้านของท้องถิ่นนี้ เป็นกระท่อมชาวนา   เครื่องมือการเกษตร เครื่องมือจับปลา พร้อมทั้งยังได้ชมเทคโนโลยีในระดับ "ภูมิปัญญาชาวบ้าน" เช่นการตีเหล็ก การปั้นหม้อ การทอผ้าโดยใช้กี่แบบพื้นเมือง



อาคารพิพิธภัณฑ์หนังใหญ่ จัดแสดงหนังใหญ่เรื่องรามเกียรติ์ ซึ่งได้มาจากวัดตะเคียน
ตำบลท้ายตลาด อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี

          เปิดให้เข้าชมทุกวัน เว้นวันจันทร์-อังคาร ตั้งแต่เวลา 8.30-16.00 น. ค่าเข้าชม ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างประเทศ 30 บาท
          พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสมเด็จพระนารายณ์ ถนนสรศักดิ์ ตำบลท่าหิน อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี 15000   โทร.036411458