สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี

บัณฑิตกิตติมศักดิ์ : พระเทพสิงหบูราจารย์ (หลวงพ่อแพ เขมงกโร)

bundit3903

พระเทพสิงหบูราจารย์ (หลวงพ่อแพ เขมงกโร)

ปริญญากิตติมศักดิ์ ครุศาสตร์บัณฑิต
โปรแกรมวิชา การบริหารการศึกษา ประจำปี 2539

ชื่อเดิม นายแพ ใจมั่นคง
เกิด 1 มกราคม พ.ศ. 2448
สถานที่เกิด บ้านสวนกล้วย ตำบลถอนสมอ อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี
บิดา นายเทียน ใจมั่นคง
มารดา นางหน่าย ใจมั่นคง
ที่อยู่ วัดพิกุลทอง อยู่ที่ตำบลพิกุลทอง อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี
มรณภาพ วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ 2542 เวลา 12.36 น. สิริอายุ 94 ปี 73 พรรษา

การศึกษา
พ.ศ. - อายุ 11 ปี ไปอยู่วัดพิกุลทองได้ศึกษาเรียนรู้ทางภาษาไทย และขอมอย่างแตกฉานทำให้มีความเชี่ยวชาญรอบรู้ ทางด้านภาษา คัมภีร์พระธรรม
พระสูตร พระมาลัย และเขียนจารึกอักษรขอมได้อย่างงดงาม
พ.ศ. 2461 อายุย่าง 14 ปี เป็นลูกศิษย์กับท่านพระอาจารย์สม(พระภิกษุชาวเขมร) อยู่ที่คณะ 15 วัดชนะสงครามฯ กรุงเทพฯ ได้ศึกษาเล่าเรียนเกี่ยวกับสูตรสนธิ (อัตโถ อักขระสัญญาโต) เป็นเวลา 1 ปี และได้ไปเรียนบาลีไวยากรณ์ ณ สำนักวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กรุงเทพฯ หลวงพ่อแพ เขมังกโร เป็นลูกศิษย์ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต(เฮง เขมจารีมหาเถร)
พ.ศ. 2463 อายุ 16 ปี บรรพชาเป็นสามเณร ในวันที่ 15 เมษายน พ.ศ.2463 โดยมีพระอธิการพันธ์ เจ้าอาวาสวัดพิกุลทอง เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากนั้นท่านก็เดินทางกลับ มายังวัดชนะสงครามมาอยู่กับพระอาจารย์เทศ คณะ10
พ.ศ. 2466 สอบนักธรรมชั้นตรีได้
พ.ศ. 2468 สอบเปรียญธรรม 3 ประโยคได้ ตั้งแต่เป็นสามเณร
พ.ศ. 2469 อายุได้ 21 ปี จึงอุปสมบท เมื่อวันที่ 21 เมษายน ณ พระอุโบสถวัดพิกุลทอง โดยมีพระมงคลทิพย์มุนี วัดจักรวรรดิ์ราชาวาส เป็นพระอุปัชฌาย์
พระครูสิทธิเดช วัดชนะสงคราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการอ่อน วัดจำปาทอง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ภายหลังอุปสมบทแล้วได้กลับมาอยู่
วัดชนะสงคราม และสอบนักธรรมชั้นโทได้
พ.ศ. 2470 สอบเปรียญธรรม 4 ประโยคได้ สำนักเรียนวัดมหาธาตุ

สมณศักดิ์
พ.ศ. 2484 ได้รับสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ตำแหน่งพระครูผู้จัดการทางประปริยัติธรรมและพระธรรมวินัย ที่ "พระครูศรีพรหมโสภิต"
พ.ศ. 2515 เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูเจ้าคณะอำเภอชั้นเอก(พิเศษ ป.)
พ.ศ. 2521 เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่พระสุนทรธรรมภาณี
พ.ศ. 2530 เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่พระราชสิงหคณาจารย์
พ.ศ. 2535 เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่พระเทพสิงหบูราจารย์
พ.ศ. 2539 ได้รับพระราชทานเป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ "พระธรรมมุนี สุทธศีลาาจารย์"

ประวัติการทำงาน

หน้าที่ด้านพระพุทธศาสนา ตำแหน่งการปกครอง
พ.ศ. 2471 ครูสอนบาลี และนักธรรมประจำวัดชนะสงคราม บางลำภู กรุงเทพฯ
พ.ศ. 2474 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดพิกุลทอง
พ.ศ. 2482 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลถอนสมอ
พ.ศ. 2486 เป็นพระอุปัชฌาย์
                 เป็นกรรมการตรวจธรรมสนามหลวง
                 เป็นสาธารณูปการอำเภอพรหมบุรี
พ.ศ. 2489 รักษาการเจ้าอาวาสวัดโบสถ์ อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี
พ.ศ. 2493 เป็นกรรมการศึกษาประจำตำบลถอนสมอ อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี
พ.ศ. 2509 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี
พ.ศ. 2514 จัดตั้งสำนักเรียนบาลีเป็นทางการ วัดพิกุลทอง
พ.ศ. 2525 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี (สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย)

ด้านสังคมสงเคราะห์
พ.ศ. 2529 เป็นประธานคณะอนุกรรมการระดับจังหวัดในการตั้งทุนร่วมถวายความจงรักภักดีของพสกนิกรและตั้งทุนสร้างเหรียญ พระชัยหลังช้าง
                 เป็นประธานหน่วยรบพิเศษเหรียญพระชัยหลังช้าง
พ.ศ. 2530 เป็นกรรมการอำนวยการจัดงานปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
พ.ศ. 2531 เป็นประธานกรรมการที่ปรึกษาชมรมผุ้สูงอายุจังหวัดสิงห์บุรี
                 เป็นประธานการพัฒนาลำน้ำแม่ลกการ้อง อำเภออินทร์บุรี
                 เป็นประธานอนุกรรมการวัฒนธรรมจังหวัดสิงห์บุรี
                 เป็นประธานอนุกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ จังหวัดสิงห์บุรี
                 เป็นกรรมการที่ปรึกษาการสร้างตึกธรรมญาณ 84

ด้านสาธารณประโยชน์
     1. ได้บำเพ็ญประโยชน์ภายในวัดพิกุลทองดำเนินการก่อสร้างถาวรวัตถุภายในวัด ได้แก่ พระอุโบสถ, ศาลาการเปรียญ, หอสวดมนต์, หอประชุมกุฎิสงฆ์, หอไตร,
หอฉัน, ศาลาวิปัสสนา, โรงฟังธรรม, ฌาปนสถาน, ศาลาเอนกประสงค์ และเขื่อนหน้าวัด เป็นต้น
     2. เป็นประธานในการก่อสร้างโรงพยาบาลอำเภอท่าช้าง
     3. เป็นประธานในการก่อสร้างที่ว่าการอำเภอท่าช้าง
     4. เป็นประธานในการก่อสร้างสถานีตำรวจอำเภอท่าช้าง
     5. เป็นประธานในการก่อสร้างสถานีอนามัยตำบลพิกุลทอง
     6. เป็นประธานในการก่อสร้างโรงเรียนประชาบาลวัดพิกุลทอง
     7. เป็นประธานในการหาทุนสมทบในการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ที่อำเภออินทร์บุรี และสะพานข้ามแม่น้ำน้อย อำเภอท่าช้าง
     8. ดำเนินการก่อสร้างสาธารณประโยชน์ให้กับโรงพยาบาลสิงห์บุรี ดังนี้
     สร้างอาคารหลวงพ่อแพ 80 ปี พ.ศ. 2528
     สร้างอาคารเอ็กซเรย์ (อาคารหลวงพ่อแพ 86 ปี) พ.ศ. 2532
     สร้างอาคารหลวงพ่อแพ 90 ปี พ.ศ. 2534