สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี
บัณฑิตกิตติมศักดิ์ : พันโทยงยุทธ ขจรวิทย์
พันโทยงยุทธ ขจรวิทย์
ปริญญาวิทยาศาสตร์บัณทิตกิตมศักดิ์
สาขาเกษตรศาสตร์ โปรแกรมวิชาเกษตรศาสตร์ ประจำปี 2541
เกิด 6 มีนาคม พ.ศ. 2477
สถานที่เกิด จังหวัดยโสธร
บิดา นายขจร ขจรวิทย์
มารดา นางโกสุม ขจรวิทย์
ภรรยา นางนันทิยา ขจรวิทย์
บุตร-ธิดา 3 คน
นายสมยงค์ ขจรวิทย์
นางขนิษฐา ส่งสกุลชัย
นายยรรยง ขจรวิทย์
การศึกษา
พ.ศ. 2495 มัธยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนประจำจังหวัด จังหวัดอุบลราชธานี
พ.ศ. 2496 จบหลักสูตร นักเรียนนายสิบทหารราบ
พ.ศ. 2498 จบหลักสูตร ทหารราบและการรบพิเศษ
พ.ศ. 2503 จบหลักสูตร ส่งกำลังทางอากาศ จาก ส.ร.อ. (pmmead Course ft.lee va. u.s.a.)
พ.ศ. 2513 จบหลักสูตร การช่วยเหลือประชาชนจาก ส.ร.อ. (civic Action course ft.gordon ga. u.s.a.)
พ.ศ. 2513 จบหลักสูตร ปฏิบัติการทางจิตวิทยาจาก ส.ร.อ. (psy op course ft. bragg n.c. u.s.a.)
พ.ศ. 2518 จบหลักสูตร ชั้นนายพัน
พ.ศ. 2527 จบหลักสูตร การจัดงานการส่งกำลังบำรุง (ชั้นสูง)
ประวัติการทำงาน
พ.ศ. 2524 ผู้บังคับกองพลาธิการส่งกำลังทางอากาศ
พ.ศ. 2505, 2511 ปฎิบัติราชการชายแดน
พ.ศ. 2517 ปฎิบัติราชการพิเศษ ณ ประเทศที่ 3
พ.ศ. 2505 ทำหน้าที่เป็นครูฝึกนักกระโดดร่มแบบเหินเวหา คนแรกของทบ.
พ.ศ. 2505 ก่อตั้งฟาร์มเห็ด ขจรวิทย์ ลพบุรี
พ.ศ. 2537 ทำหน้าที่เป็นกรรมการกลาง สมาคมนักวิจัยและเพาะเห็ดแห่งประเทศไทย
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
พ.ศ. 2497 เหรียญชัยสมรภูมิเกาหลี
พ.ศ. 2518 เหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้น 2
พ.ศ. 2525 เหรียญตริตราภรณ์มงกุฏไทย
บัณฑิตกิตติมศักดิ์ : พระเทพสิงหบูราจารย์ (หลวงพ่อแพ เขมงกโร)
พระเทพสิงหบูราจารย์ (หลวงพ่อแพ เขมงกโร)
ปริญญากิตติมศักดิ์ ครุศาสตร์บัณฑิต
โปรแกรมวิชา การบริหารการศึกษา ประจำปี 2539
ชื่อเดิม นายแพ ใจมั่นคง
เกิด 1 มกราคม พ.ศ. 2448
สถานที่เกิด บ้านสวนกล้วย ตำบลถอนสมอ อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี
บิดา นายเทียน ใจมั่นคง
มารดา นางหน่าย ใจมั่นคง
ที่อยู่ วัดพิกุลทอง อยู่ที่ตำบลพิกุลทอง อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี
มรณภาพ วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ 2542 เวลา 12.36 น. สิริอายุ 94 ปี 73 พรรษา
การศึกษา
พ.ศ. - อายุ 11 ปี ไปอยู่วัดพิกุลทองได้ศึกษาเรียนรู้ทางภาษาไทย และขอมอย่างแตกฉานทำให้มีความเชี่ยวชาญรอบรู้ ทางด้านภาษา คัมภีร์พระธรรม
พระสูตร พระมาลัย และเขียนจารึกอักษรขอมได้อย่างงดงาม
พ.ศ. 2461 อายุย่าง 14 ปี เป็นลูกศิษย์กับท่านพระอาจารย์สม(พระภิกษุชาวเขมร) อยู่ที่คณะ 15 วัดชนะสงครามฯ กรุงเทพฯ ได้ศึกษาเล่าเรียนเกี่ยวกับสูตรสนธิ (อัตโถ อักขระสัญญาโต) เป็นเวลา 1 ปี และได้ไปเรียนบาลีไวยากรณ์ ณ สำนักวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กรุงเทพฯ หลวงพ่อแพ เขมังกโร เป็นลูกศิษย์ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต(เฮง เขมจารีมหาเถร)
พ.ศ. 2463 อายุ 16 ปี บรรพชาเป็นสามเณร ในวันที่ 15 เมษายน พ.ศ.2463 โดยมีพระอธิการพันธ์ เจ้าอาวาสวัดพิกุลทอง เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากนั้นท่านก็เดินทางกลับ มายังวัดชนะสงครามมาอยู่กับพระอาจารย์เทศ คณะ10
พ.ศ. 2466 สอบนักธรรมชั้นตรีได้
พ.ศ. 2468 สอบเปรียญธรรม 3 ประโยคได้ ตั้งแต่เป็นสามเณร
พ.ศ. 2469 อายุได้ 21 ปี จึงอุปสมบท เมื่อวันที่ 21 เมษายน ณ พระอุโบสถวัดพิกุลทอง โดยมีพระมงคลทิพย์มุนี วัดจักรวรรดิ์ราชาวาส เป็นพระอุปัชฌาย์
พระครูสิทธิเดช วัดชนะสงคราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการอ่อน วัดจำปาทอง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ภายหลังอุปสมบทแล้วได้กลับมาอยู่
วัดชนะสงคราม และสอบนักธรรมชั้นโทได้
พ.ศ. 2470 สอบเปรียญธรรม 4 ประโยคได้ สำนักเรียนวัดมหาธาตุ
สมณศักดิ์
พ.ศ. 2484 ได้รับสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ตำแหน่งพระครูผู้จัดการทางประปริยัติธรรมและพระธรรมวินัย ที่ "พระครูศรีพรหมโสภิต"
พ.ศ. 2515 เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูเจ้าคณะอำเภอชั้นเอก(พิเศษ ป.)
พ.ศ. 2521 เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่พระสุนทรธรรมภาณี
พ.ศ. 2530 เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่พระราชสิงหคณาจารย์
พ.ศ. 2535 เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่พระเทพสิงหบูราจารย์
พ.ศ. 2539 ได้รับพระราชทานเป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ "พระธรรมมุนี สุทธศีลาาจารย์"
ประวัติการทำงาน
หน้าที่ด้านพระพุทธศาสนา ตำแหน่งการปกครอง
พ.ศ. 2471 ครูสอนบาลี และนักธรรมประจำวัดชนะสงคราม บางลำภู กรุงเทพฯ
พ.ศ. 2474 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดพิกุลทอง
พ.ศ. 2482 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลถอนสมอ
พ.ศ. 2486 เป็นพระอุปัชฌาย์
เป็นกรรมการตรวจธรรมสนามหลวง
เป็นสาธารณูปการอำเภอพรหมบุรี
พ.ศ. 2489 รักษาการเจ้าอาวาสวัดโบสถ์ อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี
พ.ศ. 2493 เป็นกรรมการศึกษาประจำตำบลถอนสมอ อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี
พ.ศ. 2509 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี
พ.ศ. 2514 จัดตั้งสำนักเรียนบาลีเป็นทางการ วัดพิกุลทอง
พ.ศ. 2525 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี (สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย)
ด้านสังคมสงเคราะห์
พ.ศ. 2529 เป็นประธานคณะอนุกรรมการระดับจังหวัดในการตั้งทุนร่วมถวายความจงรักภักดีของพสกนิกรและตั้งทุนสร้างเหรียญ พระชัยหลังช้าง
เป็นประธานหน่วยรบพิเศษเหรียญพระชัยหลังช้าง
พ.ศ. 2530 เป็นกรรมการอำนวยการจัดงานปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
พ.ศ. 2531 เป็นประธานกรรมการที่ปรึกษาชมรมผุ้สูงอายุจังหวัดสิงห์บุรี
เป็นประธานการพัฒนาลำน้ำแม่ลกการ้อง อำเภออินทร์บุรี
เป็นประธานอนุกรรมการวัฒนธรรมจังหวัดสิงห์บุรี
เป็นประธานอนุกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ จังหวัดสิงห์บุรี
เป็นกรรมการที่ปรึกษาการสร้างตึกธรรมญาณ 84
ด้านสาธารณประโยชน์
1. ได้บำเพ็ญประโยชน์ภายในวัดพิกุลทองดำเนินการก่อสร้างถาวรวัตถุภายในวัด ได้แก่ พระอุโบสถ, ศาลาการเปรียญ, หอสวดมนต์, หอประชุมกุฎิสงฆ์, หอไตร,
หอฉัน, ศาลาวิปัสสนา, โรงฟังธรรม, ฌาปนสถาน, ศาลาเอนกประสงค์ และเขื่อนหน้าวัด เป็นต้น
2. เป็นประธานในการก่อสร้างโรงพยาบาลอำเภอท่าช้าง
3. เป็นประธานในการก่อสร้างที่ว่าการอำเภอท่าช้าง
4. เป็นประธานในการก่อสร้างสถานีตำรวจอำเภอท่าช้าง
5. เป็นประธานในการก่อสร้างสถานีอนามัยตำบลพิกุลทอง
6. เป็นประธานในการก่อสร้างโรงเรียนประชาบาลวัดพิกุลทอง
7. เป็นประธานในการหาทุนสมทบในการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ที่อำเภออินทร์บุรี และสะพานข้ามแม่น้ำน้อย อำเภอท่าช้าง
8. ดำเนินการก่อสร้างสาธารณประโยชน์ให้กับโรงพยาบาลสิงห์บุรี ดังนี้
สร้างอาคารหลวงพ่อแพ 80 ปี พ.ศ. 2528
สร้างอาคารเอ็กซเรย์ (อาคารหลวงพ่อแพ 86 ปี) พ.ศ. 2532
สร้างอาคารหลวงพ่อแพ 90 ปี พ.ศ. 2534
บัณฑิตกิตติมศักดิ์ : นายสมบูรณ์ ชุมศักดิ์วินิจ
นายสมบูรณ์ ชุมศักดิ์วินิจ
ปริญญากิตติมศักดิ์ สาขาศิลปศาสตร์
สายบริหารธุรกิจ และการจัดการ โปรแกรมวิชาการบริหารธุรกิจ ประจำปี 2539
เกิด 24 ธันวาคม 2478
สถานที่เกิด ตำบลท่าหิน อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี
บิดา นายเต็ง แซ่เตี้ย
มารดา นางประยง แซ่เตี้ย
ภรรยา นางพิศมัย ชุมศักดิ์วินิจ
บุตร-ธิดา 2 คน
นางสุวพร ตรรกพงศ์
นายกิตติภณ ชุมศักดิ์วินิจ
ประวัติการศึกษา
พ.ศ. - เริ่มการศึกษาระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนในวังนารายณ์ จังหวัดลพบุรี
พ.ศ. 2490 สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนบำรุงศึกษา จังหวัดสระบุรี
ประวัติการทำงาน
พ.ศ. 2500 เริ่มดำเนินธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม และชั้นบนของอาคารเป็นโรงแรม คือ "โรงแรมเกี่ยวอัน" และได้ขยายโรงแรมเรื่อยมาจนได้มาตรฐาน
พ.ศ. 2524 ได้ก่อตั้งโรงพยาบาลมิตรภาพเมโมเรียล สระบุรี
พ.ศ. 2534 เปิดร้าน ห้างเพชรทองสมบูรณ์สระบุรี ประกอบการค้าอัญมณี เพชร และทองรูปพรรณ
ด้านสาธารณประโยชน์
1. กรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์
2. กรรมการกาชาดสระบุรี
3. กรรมการพัฒนาเทศบาลเมืองสระบุรี
4. กรรมการมูลนิธิไลออน แห่งประเทศไทย
5. กรรมการบริหารสโมสรไลออนสระบุรี และประธานเขต 11
6. กรรมการลูกเสือสระบุรี
7. กรรมการหอการค้าจังหวัดสระบุรี
8. รองประธานหอการค้าจังหวัดสระบุรี
9. อุปนายกสมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนอนุบาลสระบุรี
10. อุปนายกสมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนสระบุรีวิทยาคม
11. กรรมการสมาคมผู้ปกครองและครูวิทยาลัยเทคนิคสระบุรี
12. กรรมการสมาคมผู้ปกครองและครูวิทยาลัยอาชีวศึกษาสระบุรี
13. กรรมการจัดหาทุนการศึกษา ให้แก่สถาบันการศึกษาต่างๆ ในเขตจังหวัดสระบุรี
เครื่่องราชอิสริยาภรณ์
5 ธันวาคม 2520 เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย (บ.ม.)
5 ธันวาคม 2523 เบญจมาภรณ์ช้างเผือก (บ.ช.)
5 ธันวาคม 2525 จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก (จ.ช.)
5 ธันวาคม 2527 ตริตาภรณ์มงกุฎไทย (ต.ม.)
บัณฑิตกิตติมศักดิ์ : นายศรี อิ่มสุข
นายศรี อิ่มสุข
ปริญญากิตติมศักดิ์ สาขาศิลปศาสตร์
โปรแกรมวิชานิเทศศาสตร์ ประจำปี 2539
เกิด 5 มกราคม พ.ศ. 2464
สถานที่เกิด บ้านเลขที่ 030 หมู่ 1 ตำบลท่าวุ้ง อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี
บิดา นายวงษ์ อิ่มสุข
มารดา นางทองดี อิ่มสุข
ภรรยา นางสุภาพ อิ่มสุข
บุตร-ธิดา 4 คน
นางสุวพีร์ ชุตินันท์
ผศ.ศิริเพ็ญ มากบุญ
นายพิเชษฐ์ อิ่มสุข
นายเจษฎา อิ่มสุข
ประวัติการศึกษา
พ.ศ. - สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนประชาบาล ตำบลบางคู้ 1 (วัดวิหารขาว) ตำบลบางคู้ อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี
พ.ศ. 2480 สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนพระนารายณ์
พ.ศ. - ได้วุฒิครูพิเศษประถม(พ.ป.) โดยการศึกษาสมัครสอบด้วยตนเอง
ประวัติการทำงาน
พ.ศ. 2478 เริ่มเป็นนักเขียนสมัครเล่นในหนังสือพิมพ์ส่วนกลาง นสพ.หลักเมือง ขณะยังเป็นนักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 4
พ.ศ. 2480 รับราชการครูโรงเรียนประชาบาลตำบลโพตลาดแก้ว(วัดสนามไชย) อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี
พ.ศ. 2491 เป็นครูใหญ่โรงเรียนประชาบาลวัดถ้ำตะโก ต.เขาสมอคอน อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี
พ.ศ. 2496 เป็นครูใหญ่โรงเรียนมัธยมสามัญ เปิดสอนระดับ ป.5-ป.7 เป็นโรงเรียนแรกของอำเภอท่าวุ้ง ที่วัดท่าราบ ต.บางคู้ อ.ท่าวุ้ง
พ.ศ. 2508 กำเนิด นสพ.เดลินิวส์ จึงเริ่มงานหนังสือพิมพ์ที่ นสพ.เดลินิวส์ ตั้งแต่ฉบับแรกในฐานะนักเขียนอาชีพ ตลอดจนถึงปัจจุบัน
พ.ศ. 2508 กำเนิด นสพ.เดลิไทม์ เสียงปวงชน พิมพ์ไทย จึงเขียนข่าวและเรื่องต่างๆ ลงหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ
พ.ศ. 2511 ลาออกจากราชการเพื่อประกอบอาชีพส่วนตัว อาชีพนักหนังสือพิมพ์และนักจัดรายการวิทยุ
พ.ศ. 2518 กำเนิด นสพ.ชาวไทย ก็ได้เป็นนักเขียน นักข่าว ของหนังสือพิมพ์ชาวไทย
ด้านสาธารณประโยชน์
1. เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนิเทศศาสตร์ เป็นนักเขียน นักข่าว ผลงานด้านสิ่งแวดล้อม การอนุรักษ์โบราณสถาน โบราณวัตถุ การศึกษา ศาสนา วัฒนธรรม
และปัญหาของท้องถิ่น
2. บำเพ็ญตนเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม เป็นวิทยากรให้ความรู้ด้านหนังสือพิมพ์ แก่ครู นักเรียน ตามสถานศึกษาต่างๆ
3. เป็นประธานกรรมการการประชาสัมพันธ์โครงการฟื้นฟูแม่น้ำลพบุรี
4. เป็นกรรมการที่ปรึกษาโรงเรียนท่าวุ้งวิทยาคาร
5. เป็นกรรมการที่ปรึกษาโรงพยาบาลท่าวุ้ง
6. เป็นประธานที่ปรึกษาของวัดต่างๆ เช่น วัดท่าราบ วัดสามัคคีธรรม และวัดมะค่า
7. เป็นที่ปรึกษากำนัน ด้านการพัฒนาหลายตำบล เช่น ต.ท่าวุ้ง ต.บางคู้ ต.หัวสำโรง
8. เป็นกรรมการจัดงานสมาคมนักเรียนเก่าโรงเรียนพิบูลวิทยาลัย
9. เป็นกรรมการงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
10. เป็นกรรมการจัดงานประเพณีท้องถิ่น วัดไลย์ อ.ท่าวุ้ง
เครื่่องราชอิสริยาภรณ์
พ.ศ. 2511 เบญจมาภรณ์ช้างเผือก
บัณฑิตกิตติมศักดิ์ : นายเงิน บุญสุภา
นายเงิน บุญสุภา
ปริญญากิตติมศักดิ์ สาขาศิลปศาสตร์
สายบริหารธุรกิจ และการจัดการ โปรแกรมวิชาการบริหารธุรกิจ ประจำปี 2537
เกิด 26 มกราคม 2476
บิดา นายธรรม บุญสุภา
มารดา นางหุ่น บุญสุภา
ภรรยา นางจินตนา บุญสุภา
บุตร-ธิดา 4 คน
นายจุมพล บุญสุภา
นายสมเกียรติ บุญสุภา
นางสาวเกศินี บุญสุภา
นายปฏิพันธ์ บุญสุภา
ที่อยู่ 181 หมู่ที่ 2 ตำบลหน้าพระลาน อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี
การศึกษา
1. ระดับประถมศึกษาตอนต้น โรงเรียนวัดต้นตาล อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี
2. ระดับประถมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนราษฎร์ศึกษา อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี
3. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย โรงเรียนศึกษาผู้ใหญ่พุแควิทยาคม อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี
4. ประกาศนียบัตรหลักสูตรภาษาอังกฤษเบื้องต้นระยะสั้น โรงเรียนพุแควิทยาคม อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี
5. ศึกษาและฝึกงานหลักสูตรการสำรวจแร่หินอ่อน วิธีการผลิตหินอ่อน การใช้เครื่องจักร ผลิตหินอ่อน จากวิศวกรชาวอิตาเลียน เป็นเวลา 18 เดือน
6. อบรมหลักสูตรการพูดในที่ชุมชน จากสถาบันฝึกการพูด
ประวัติการทำงาน
1. อาชีพเกษตรกร
2. เป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 ตำบลต้นตาล อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี
3. พนักงานรักษาความปลอดภัย ของโรงงานหินอ่อนสระบุรี จำกัด
4. ผู้จัดการโรงงานหินอ่อนสระบุรี
5. ก่อตั้งบริษัท โรงโม่หินสุภา โรงงานหินอ่อนบุญสุภา และโรงงานหินอ่อนเกียรติกมล
ตำแหน่งทางการเมือง
พ.ศ. 2518 เป็นสมาชิกสภาจังหวัดสระบุรี
พ.ศ. 2519-2522 เป็นประธานสภาจังหวัดสระบุรี รวม 4 สมัย สมัยละ 1 ปี
พ.ศ. 2526 เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสระบุรี สมัยที่ 1
พ.ศ. 2529 เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสระบุรี สมัยที่ 2 และดำรงตำแหน่งประจำสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
พ.ศ. 2531 เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสระบุรี สมัยที่ 3
พ.ศ. 2535 เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสระบุรี สมัยที่ 4 และดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
พ.ศ. 2535 เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสระบุรี สมัยที่ 5
ด้านสาธารณประโยชน์
1. การส่งเสริมการศึกษาของเยาวชน
2. กิจกรรมลูกเสือ
3. งานที่เกี่ยวข้องกับส่วนราชการและองค์กรต่างๆ
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
5 ธันวาคม 2531 ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก(ท.ช.)
5 ธันวาคม 2533 ประถมาภรณ์มงกุฏไทย(ป.ม.)
5 ธันวาคม 2535 ประถมาภรณ์ช้างเผือก(ป.ช.)
2023 © Thepsatri Rajabhat University