สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี
วัดสว่างอารมณ์ อยู่ในเขตเทศบาลเมืองสิงห์บุรี ที่ ตำบลต้นโพธิ์ ห่างจากศาลาหลังเก่า ไปตามลำน้ำเจ้าพระยาประมาณ 2 กม. วัดนี้เคยเป็นศูนย์รวมของศิลปวิทยาหลายด้าน เช่น การศึกษา ภาษาไทย ภาษาบาลี การก่อสร้างโบสถ์วิหาร ศาลา โดยเฉพาะการปั้นพระพุทธรูปเหมือน ซึ่งสืบทอดวิชามาจากตระกูลบ้านช่างหล่อธนบุรี
ทั้งยังเป็นแหล่งเก็บรักษารวบรวมตัวหนังใหญ่ที่มีความงดงาม สมบูรณ์ และยังสามารถเล่นได้กว่า 300 ตัว แบ่งเป็นชุดใหญ่ๆ ได้ 4 ชุด คือ ชุดศึกใหญ่ (ศึกทศกัณฑ์ครั้งที่ 5) ชุดศึกมงกุฏ-บุตรลพ ชุดนาคบาศ และชุดศึกวิรุญจำบัง และทางวัดยังได้เก็บรักษาเรือหางยาวเก่าแก่ที่เคยมีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือของจังหวัดสิงห์บุรี เช่น เรือหงษ์ทอง ไว้ชนรุ่นหลังได้ศึกษาและชื่นชม
การเดินทาง มีรถโดยสารประจำทางสาย 165 (อ่างทอง-ตาคีล) ผ่าน
วัดม่วง ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ติดถนนสายเอเชีย หมู่ 8 บ้านบางกะปิ ต.อินทร์บุรี อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ประมาณปี พ.ศ. 2365 เหตุที่ชื่อว่า " วัดม่วง " ก็เพราะภายในบริเวณวัดเดิมมีต้นมะม่วงขนาดใหญ่ อยู่เป็นจำนวนมาก จึงนิยมเรียก "วัดม่วง "
บริเวณวัดม่วงมีวิหารเก่าแก่เป็นอาคารปูน รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีมุขยื่นออกมา ที่หน้าบันประดับด้วยภาชนะเครื่องถ้วยต่างๆ ในวิหารมีพระพุทธรูปปางมารวิชัยเป็นประธาน พุทธลักษณะงดงามมาก ประดิษฐานอยู่บนฐานชุกชีรูปฐานสิงห์ มีฐานบัวขนาดใหญ่รองรับ เพดานประดับด้วยลายเขียน รูปดาว มีภาพจิตกรรมฝาผนังเขียนด้วยสีฝุ่น ฝีมือช่างพื้นบ้าน สันนิษฐานว่าเขียนขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ( รัชกาลที่ 4 ) เขียนเป็นเรื่องเกี่ยวกับพุทธประวัติ การปลงอศุภกรรมฐานของพระสงฆ์ พระมาลัยสูตร รูปเทวดา ภาพลวดลายดอกไม้ และภาพพระพุทธองค์ เสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์ ทรงบำเพ็ญทุขกริยาภาพทรงเสด็จกลับจากการไปโปรดพระพุทธมารดา แต่ละภาพลีลาอ่อนช้อย สวยงามมีคุณค่า แสดงออกถึงความศรัทธาในพระพุทธศาสนา
ภาพจิตกรรมฝาผนังของวัดม่วงนี้มีคุณค่าทางด้านศิลปกรรม ด้านศาสนา สะท้อนให้เห็นถึง ความเชื่อของคนไทยที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา และมีคุณค่าทางด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี แสดงเห็นสภาพวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสภาพบ้านเรือน สถาปัตยกรรม การแต่งกาย และสภาพสิ่งแวดล้อม
การเดินทาง มีรถโดยสารประจำทางสาย 165 ( อ่างทอง - ตาคลี ) ผ่าน
วัดพิกุลทอง อยู่ในเขตตำบลวิหารขาว ห่างจากวัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร ไปประมาณ 9 กิโลเมตร เรียกกันว่า "วัดหลวงพ่อแพ" ( พระเทพสิงหบุราจารย์ ) ภายในวัดนี้มีพระพุทธรูปนั่งปานประทานพรองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย คือ พระพุทธสุวรรณมงคลมหามุนี หรือหลวงพ่อใหญ่ ขนาดหน้าตักกว้าง 11 วา 2 ศอก 7 นิ้ว สูง 21 วา 1 คืบ 3 นิ้ว มีพุทธลักษณะงดงามมากมายภายในเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กประดับด้วยโมเสดทองคำธรรมชาติชนิด 24 เค รอบๆ พระวิหารคด เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางประจำวันต่างๆ
นอกจากนี้ยังมีสวนธรรมชาติแวดล้อมด้วยบรรยากาศที่ร่มรื่นสงบเงียบ อีกด้านหนึ่งของวัดมีพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อแพ จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติและเครื่องอัฐบริขารของหลวงพ่อแพ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน บริเวณหน้าวัดมีแม่น้ำน้อยไหลผ่านเป็นที่อยู่อาศัยของฝูงปลาเป็นจำนวนมากและยังเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจของผู้ที่มาท่องเที่ยววัดนี้
การเดินทาง มีรถสองแถวประจำทางสายสิงห์บุรี - วัดพิกุลทอง
วัดพระปรางค์มุนี ตั้งอยู่บริเวณตำบลม่วงหมู่ อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี ติดกับถนนสายเอเชีย สร้างเมื่อประมาณ พ.ศ. 2440 ภายในพระอุโบสถมีภาพจิตกรรมฝาผนังเรื่องราวเกี่ยวกับ ทศชาติ ฝีมือชาวบ้าน เขียนโดย นายเพ็ง คนลาว เมื่อ พ.ศ.2462 ฝีมืองดงามมาก
วัดพระปรางค์ (ชัณสูตร) ตั้งอยู่หมู่ที่ 7 บ้านโคกหม้อ ตำบลเชิงกลัด อำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี ภายในวัดมีเจดีย์พระปรางค์ศิลปะแบบอยุธยา สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น รัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ก่อด้วยอิฐแบบปรางค์ไทย สูงชะลูดคล้ายฝักข้าวโพด สูงประมาณ 15 เมตร ฐานเตี้ยภายในกลวง มีคูหาสี่เหลี่ยมจัตุรัส บนผนังคูหามีร่องรอยจิตรกรรมฝาผนังเขียนด้วยสีแดงชาด สีขาว และสีดำ เหลืออยู่เล็กน้อย บนยอดปรางค์พบพระพุทธรูปขนาดเล็กบุทองคำและบุเงินจำนวนหนึ่งลักษณะพุทธรูปเป็นฝีมือช่างท้องถิ่น คล้ายพระพุทธรูปสมัยอยุธยาตอนปลายระยะแรกๆ ด้านหลังวิหารเก่าแกแบบอยุธยา หน้าบันเป็นลาย แกะสลักไม้รูปตัวสิงห์และคันทวยต่างๆ ฝีมือประณีต
- พระวิหาร มีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบรัตน์โกสินทร์ตอนต้น
- พระอุโบสถ มีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบอยุธยาตอนปลาย
วัดนี้ยังเป็นแหล่งเตาเผาแม่น้ำน้อย ที่คงเหลือร่องรอยเตาเผาให้เห็นอยู่
การเดินทาง มีรถโดยสารประจำทางสาย 605 (สิงห์บุรี - สรรคบุรี) ผ่าน ประมาณ16 กม. และห่างจากตลาดชัณสูตรไปประมาณ 1 กม.
2023 © Thepsatri Rajabhat University