Page 61 - 103 ปี เทพสตรี มหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาชุมชนและท้องถิ่น
P. 61
จังหวัดลพบุรีเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีวัฒนธรรมการทอผ้าที่สืบ
ต่อกันมาอย่างยาวนาน โดยในอดีตนั้นได้มีการอพยพของ
บทน�าประชากรจากหลายเชื้อชาติเข้ามาตั้งถิ่นฐานในแต่ละพื้นที่ของ
จังหวัดลพบุรี ดังนั้น จึงมีรูปแบบการทอผ้าที่แตกต่างกันไป ซึ่งผ้ามัดหมี่ทอมือของจังหวัดลพบุรี
เป็นหนึ่งในผ้าทอที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยการผลิตผ้าทอมัดหมี่ใช้วิธีการที่เป็น
เอกลักษณ์ ซึ่งลักษณะที่โดดเด่นของผ้าทอมัดหมี่ในจังหวัดลพบุรีในปัจจุบันอ�าเภอโคกเจริญเป็น
แหล่งทอผ้าที่ส�าคัญในจังหวัดลพบุรี เนื่องจากยังมีจ�านวนของครัวเรือนทอผ้ามากที่สุดในจังหวัด
ลพบุรี
มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรีเป็นมหาวิทยาลัยเพื่อชุมชน มุ่งวิจัยสร้างองค์ความรู้และ
นวัตกรรมให้มีคุณภาพเพื่อพัฒนาท้องถิ่น และสร้างความร่วมมือกับชุมชนทั้งในด้านการวิจัย และ
การบริการวิชาการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมหาวิทยาลัยราชภัฏมุ่งเน้นให้ชุมชนในพื้นที่ได้รับการพัฒนา
อย่างยั่งยืนภายใต้บริบทของท้องถิ่นและศักยภาพของมหาวิทยาลัย ถือเป็นยุทธศาสตร์ส�าคัญ
โดยโครงการวิจัยนี้ได้ด�าเนินโครงการในพื้นที่จังหวัดลพบุรี ถือเป็นหนึ่งในพื้นที่รับผิดชอบของ
มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี ได้แก่ จังหวัดลพบุรี จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดสระบุรี หรือ 3 บุรี
กลุ่มทอผ้าบ้านจอมแก้ว ต�าบลโคกแสมสาร อ�าเภอโคกเจริญ จังหวัดลพบุรี เป็นกลุ่ม
ที่สมาชิกรวมตัวกันเพื่อผลิตผ้าทอมัดหมี่ลพบุรี ซึ่งเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนและครัวเรือน
อีกทั้งใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ รวมถึงเป็นการสืบสานและอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมและ
ภูมิปัญญาในการทอผ้ามัดหมี่ที่สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษ ทั้งนี้ ค�าว่า “ผ้ามัดหมี่” เป็นชื่อที่
เรียกวิธีการทอผ้าที่น�าเอาเส้นด้ายมามัดเป็นเปลาะ ๆ ตามลายแล้วน�าไปย้อมสีให้เกิดสีสัน และ
ลวดลายตามที่ต้องการ ซึ่งความสวยงามและความเป็นเอกลักษณ์ของผ้ามัดหมี่นั้น คือ รอยสีที่
ค่อย ๆ ซึมในเนื้อผ้าที่ติดกับลวดลาย ท�าให้ได้ลวดลายที่แปลกตาผ้ามัดหมี่เป็นผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน
ที่ลูกหลานชาวอีสานอพยพได้สืบทอดศิลปวัฒนธรรมมาจากปู่ย่าตายาย ที่แสดงถึงเรื่องราว ความ
เชื่อ วิถีชีวิต ประเพณี และวัฒนธรรมของวิถีการทอผ้าที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น
จากการลงพื้นที่เพื่อส�ารวจพบว่า ความต้องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าทอของกลุ่มทอผ้า
บ้านจอมแก้ว คณะผู้วิจัยได้เก็บข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้น�าและสมาชิกกลุ่มทอผ้าบ้านจ
อมแก้ว ถึงการทอผ้าที่มีรูปแบบ เทคนิค ลวดลายแบบเดิม ๆ ท�าให้ส่งเสริมการขายได้ยาก ผ้า
ที่ทอได้จึงต้องน�าส่งคนกลางในการรับซื้อและถูกรับซื้อแบบตัดราคาท�าให้เกิดความท้อถอยน�ามา
สู่ปัญหาการเลิกทอผ้าไปในที่สุด อีกทั้งความยากในการทอผ้าเนื่องจากผ้า 1 ผืน มีกระบวนการ
ทอที่ยากและใช้ระยะเวลา แต่ไม่สามารถขายได้ในราคาที่เหมาะสม และต้องขายผูกขาดให้กับ
คนกลางผู้รับซื้อมาอย่างช้านาน กลุ่มทอผ้าบ้านจอมแก้วเป็นกลุ่มทอผ้าขนาดเล็กที่สมาชิกเป็นผู้
สูงอายุจึงขาดโอกาสในการได้รับการส่งเสริมจากหน่วยงานราชการ
60 < 103 ปี เทพสตรี มหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาชุมชนและท้องถิ่น