Page 118 - วารสารวัฒนเทพ (วารสารรายปี ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 เมษายน 2564 - มีนาคม 2565)
P. 118
มารวมทำบุญผานพิธีกรรมเสริมเรือของวัดพุนอยจากการเก็บขอมูลของผูวิจัย พบวาขั้นตอน
ของพิธีกรรมเสริมเรือโดยสังเขป มีดังนี้
1.2.1 จองลำดับเพื่อเขารวมพิธีกรรม
1.2.2 เมื่อเขาหองทำพิธีแลวใหนำเรือไปวางไวตอหนาผูทำพิธีคือเจา
อาวาสวัดพุนอย ทานจะนำสายสิญจนมาคลองไวที่เรือทุกลำที่เขาพิธี
1.2.3 เจาอาวาสจะใหผูเขารวมพิธีอนุโมทนาเงินที่ใสไวในเรือที่เขาพิธี เงิน
ดังกลาวเปนผลมาจากวิธีปฏิบัติบูชาเรือแมตะเคียนทอง ที่จะใหผูบูชาเรือเก็บสะสมเงินที่ได
จากการคาขายหรือประกอบอาชีพอื่น ๆ มาแบงใสไวในเรือ ซึ่งเปน “การออมบุญ” เมื่อนำ
เรือมารวมพิธีเสริมเรือที่วัดก็จะถวายเงินดังกลาว ใหกับวัดเปนการทำบุญใหตน และอุทิศบุญ
ใหแมตะเคียนที่สิงสถิตอยูในเรือ
1.2.4 เจาอาวาสจะขึ้นบทชุมนุมเทวดา 7 สำหรับเจริญพระพุทธมนต
12 ตำนาน ดังนี้
สะมันตา จักกะวาเฬสุ อัตราคัจฉันตุ เทวะตา สัทธัมมัง มุนิราชัสสะ สุณัน
ตุ สัคคะโมกขะทัง สัคเค กาเม จะ รูเป คิริสิขะระตะเฏ จันตะลิกเข วิมาเน ทีเปรัฏเฐ จะ คา
เม ตะรุวะนะคะหะเน เคหะวัตถุมหิ เขตเต ภุมมา จายันตุ เทวา ชะละถะละวิสะเม ยักขะ
คันธัพพะนาคา ติฏฐันตา สันติเก ยัง มุนิวะระจะนัง สาธะโว เม สุณันตุ ธัมมัสสะวะนะกาโล
อะยัมภะทันตา ธัมมัสสะวะนะกะโล อะยัมภะทันตา ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา
จากนั้นพระสงฆ อีก 2 รูปจะขึ้นบทสวดกะระณียะเมตตะสุตตังและชัย
มงคลคาถา ในขณะที่พระสงฆสวดบทดังกลาวเจาอาวาสจะเปดเพลงบรรเลงดวยเครื่องดนตรี
ไทยคือ “เพลงลาวกระทบไม” พรมน้ำมนตไปที่ผูเขารวมพิธี และกลาวเชิญชวนใหผูรวม
พิธีกรรมรายรำ โดยกลาววา “ขอเชิญนะแมนะถาแมจะรำเพลงไทย ๆ ถวายหลวงปูแบน
เพื่อขอความเปนสิริมงคลก็ขอ เชิญนะแมนะ เชิญเถอะแมตะเคียนทอง ลูกหลานไดพาแมมา
เสริมเพิ่มบารมีพาแมมาทำบุญนะแมนะขอ เชิญนะแมที่รำสวยขอใหรำใหชื่นใจรำใหมีโชคมี
ลาภนะแมนะ” (พระโสภณพัฒนคุณ, 2563)
ผูวิจัยสังเกตวา ตั้งแตเจาอาวาสเริ่มสวดบทชุมนุมเทวดาผูรวมพิธีบางคน
เริ่มมีอาการตัวสั่น สงเสียงรองไหและบางคนลุกขึ้นมาแสดงอาการรายรำตามจังหวะเพลง
จากคำพูดเชิญชวนใหรายรำของเจาอาวาส แสดงวาจิตวิญญาณของแมตะเคียนตองการ
รายรำตามคำเชิญชวนของเจาอาวาส ทำใหผูเขารวม พิธีกรรมมีอาการดังกลาวผูเขารวม
พิธีกรรมเสริมเรืออธิบายวา “แมตะเคียนทองทานดีใจ ที่ไดกลับมาวัดพุนอย มาหาหลวงปู
มาหาหลวงพอและไดมาทำบุญ ทำใหแมดีใจ บางคนเขาก็รองไหรองดีใจนะ บางคนเขาก็รำ
ออกมา” (พยุง เรืองรัตน, 2563)
110
110