Page 99 - งานศิลปหัตถกรรม ลาวแง้ว บ้านหนองเมือง ลพบุรี
P. 99

90                                                                                       91



                  จังหวัดอุบลราชธานีธรรมาสน์สิงห์เทินบุษบก ตัวองค์ธรรมาสน์ สร้างขึ้นในปี
                  พ.ศ. ๒๔๖๘ ลักษณะเป็นรูปสิงห์ยืนเทินปราสาท สร้างด้วยอิฐถือปูน ยอดปราสาท

                  เป็นเครื่องไม้เป็นชั้นลดหลั่น เชื่อว่าเป็นงานศิลปกรรมที่เกิดจากงานผสมผสาน
                  ความคิดของช่างฝีมือไทยชีทวน กับช่างญวนในสมัยนั้นบนตัวธรรมาสน์สิงห์
                  ประดับประดาด้วยกระจกสีต่างๆ อย่างสวยงาม (วัดศรีนวลแสงสว่างอารมณ์.
                  ๒๕๕๘.ออนไลน์)
                         ลวดลาย

                         ธรรมาสน์ฐานสิงห์มีไม้ฉลุและงานแกะสลัก ตรงบันไดจะแกะเป็นลาย
                  พญานาคฐานแกะเป็นรูปคนครึ่งนกหรือหงส์ อีกด้านแกะเป็นรูปเทวดาถืออาวุธ
                  ศิลปะพม่า บุษบกตกแต่งด้วยลายหน้ากระดาน ด้านล่าง ลายนกคาบ และลายก้นขด

                  ลายพญานาค
                         วัสดุ
                         จะใช้ไม้เนื้อแข็งเช่น ไม้สัก มะค่า ประดู่เพราะจะฉลุหรือแกะง่าย
                         การใช้สอย
                         เป็นที่ส�าหรับพระภิกษุสามเณรนั่งแสดงธรรม โดยจะใช้กับงานใหญ่ๆ

                  เช่นงานเทศน์มหาชาติ
                         ความเชื่อ ประเพณี
                         จากการสัมภาษณ์พบว่าธรรมาสน์ฐานสิงห์ ของลาวแง้วนั้น สร้างขึ้น

                  เพื่อใช้เป็นที่ส�าหรับพระภิกษุหรืสามเณรนั่งแสดงธรรม เกี่ยวข้องกับพิธีกรรม
                  คืองานบุญใหญ่เช่นวันเทศน์มหาชาติ ซึ่งมีคนไปท�าบุญที่วัดเยอะ พระเปรียบ
                  เสมือนตัวแทนพระพุทธเจ้าที่เทศนาสั่งสอนสัตว์จึงต้องยกไว้ในที่สูง บุษบก
                  เปรียบดังปราสาทหรือวิมาน ส่วนฐานสิงห์นั้นมีความหมาย ในวัฒนธรรมไทย
                  “สิงห์” หรือ “สิงโต” นั้นถูกน�ามาใช้ตกแต่งสถาปัตยกรรมที่ เกี่ยวข้องกับ

                  กษัตริย์ เพื่อให้เป็นสัญลักษณ์ของพลังอ�านาจและความแข็งแกร่ง ซึ่งใน
                  ทุกวัฒนธรรมล้วนแล้วแต่ใช้สิงโตเป็นสัญลักษณ์ในเชิงนี้กันทั้งสิ้น สิ่งที่ปรากฏ
                  ในประเทศไทย นั้น เราอาจจะเคยได้ยิน ค�าว่า “สีหบัญชร” ซึ่งเป็นที่พระมหากษัตริย์




            ศิลปหัตถกรรมของชาติพันธุ์ลาวแง้ว                                                                                               จุติรัช อนุกูล
   94   95   96   97   98   99   100   101   102   103   104