Page 50 - จิตรกรรมฝาผนัง วัดธรรมิการาม อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี
P. 50

เป็นครั้งแรกโดยน�าเอาแบบอย่างมาจากต�ารวจอังกฤษต่อมาปี พ.ศ.๒๔๓๕ พระบาทสมเด็จ
           พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาให้จัดตั้งกิจการต�ารวจขึ้นอย่างเป็นทางการโดย
           โปรดเกล้าให้พระเจ้าน้องยาเธอกรมหมื่นนเรศวรฤทธิ์ เป็นเสนาบดีว่าการกรมพระนครบาล
           ดูแลต�ารวจนครบาล
                ในช่วงแรกต�ารวจพลตระเวน (ต่อมาก็คือนครบาล) แต่งเครื่องแบบโดย ใช้ผ้าพันแข้งสีด�า
           และสวมหมวกสีด�า ตรงกลางหมวกมีจุกสีแดง ชาวบ้านจึงมักเรียกกันว่า พวกหงอนแดงแข้งด�า
           แล้วกลายเป็นหัวแดงแข้งด�า พลตระเวนดังกล่าวมีการจัดระบบต่างๆ เช่นเดียวกับเมืองสิงคโปร์
           และอินเดียซึ่งขณะนั้นเป็นอาณานิคมของอังกฤษโดยมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยภายใน
           ประเทศ แทนข้าหลวงกองจับ และกองตระเวนซ้ายขวา (ต�ารวจกรมพระนครบาล กรมพระนครบาล
           คือ เวียงในจตุสดมภ์)
                กองต�ารวจที่ตั้งขึ้นใหม่นี้ในช่วงแรกๆ ในการว่าจ้างพวกแขก มลายูและแขกอินเดียมาเป็น
           ต�ารวจเรียกกองต�ารวจนี้ว่ากองโปลิสคอนสเตเบิ้ล ต่อมาเมื่อกิจการกรมกรองตะเวนเข้าทาง
           เรียบร้อยแล้ว จึงมีการปรับปรุงเครื่องแบบโดยให้มีตราหน้าหมวกติดเป็นโลหะสีเงินรูปกลีบบัว
           หงาย มีรูปข้างสามเศียรอยู่ตรงกลาง ขอบมีอักษรไทยว่า กรมกองตะเวน ส่วนผ้าพันแข้งและ
           หมวกของพลตระเวนก็ยังเป็นหงอนแดงแข้งด�า ไม่สวมรองเท้าอยู่อย่างเดิม ส่วนก�าลังคนได้
           เปลี่ยนจากการว่าจ้างมาเป็นเกณฑ์พลเมืองตามพระราชบัญญัติเกณฑ์ทหารแทน
                โดยหน้าที่ส�าหรับพลตระเวนนั้นในเวลากลางวันอยู่ประจ�าถนนที่เป็นทางแยก ซึ่งมีม้า
           มีรถม้า มีรถลาก ราษฏรเดินไปมามาก อยู่ประจ�าตรอก ประจ�าสถานที่ต่างๆ ที่มีผู้คนโคจรอยู่
           เสมอ จับโจรผู้ร้าย ระงับการวิวาท ดับเพลิง ฯลฯ แล้วแต่จะมีเหตุการณ์เกิดขึ้น นอกจากนี้
           ยังมีการลาดตระเวนรักษาท้องถิ่นที่ล�าน�้าโดยใช้เรือส�าปั้นเป็นพาหนะ เวลากลางวันมีพลตระเวน
           ลงเรือล�าละ ๓-๔ คน พายเลียบไปตามริมฝั่งแม่น�้าล�าคลอง เพราะสมัยก่อนยังใช้แม่น�้าล�าคลอง
           สัญจรไปมา โรงเรือนแพต่างๆ มักอยู่ริมแม่น�้าล�าคลอง จึงมีตลาดท้องน�้า มีแพบ่อน มีโรงงิ้ว
           โรงเล่นประจ�า ในเวลากลางคืนเรือลาดตระเวนดังกล่าวจะเพิ่มพลตะเวนเป็น ๖-๘ คน
           (กรมศิลปากร. ๒๕๕๙. หน้า ๕๔)


           รถเจ๊ก
                รถลากในประเทศไทยหรือที่เรียกกันว่า รถเจ๊ก เพราะพาหนะประเภทนี้มีแต่คนจีน
           ที่ประกอบอาชีพรับจ้างลาก ดั้งเดิมเป็นของที่ผลิตขึ้นจากประเทศญี่ปุ่น ในสมัยรัชกาลพระบาท
           สมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้มีกลุ่มพวกพ่อค้าน�ามาน้อมเกล้าฯ ถวาย ต่อมาจึงโปรดฯ ให้ซื้อ
           เข้ามาพระราชทานเจ้านาย และขุนนางผู้ใหญ่รวมทั้งการสั่งซื้อกันเองบ้าง โดยใช้เป็นพาหนะ
           ส่วนพระองค์และส่วนตัว แต่ที่สั่งมาใช้วิ่งรับส่งคนโดยสารและบรรทุกของนั้น ผู้สั่งเข้ามาเป็น


           48  |
   45   46   47   48   49   50   51   52   53   54   55