
กลไกการบริหารจัดการทรัพยากร
ชุมชนอย่างยั่งยืนจ่าเหน่ง เกษตรอินทรีย์
บทสรุปผู้บริหาร

จ่าเหน่ง เกษตรอินทรีย์ เป็นศูนย์เรียบรู้เรื่องเกษตรอินทรีย์แบบครบจรบอกจากนี้ยังเป็นศูนย์ เรียบรู้เศรษฐกิจพลเพียงชุมขนบ้านไร่กล้วย ศูนย์เรียบรู้เกษตรอินทรีย์ PGS (ศูนย์ใหม่) ศูนย์การเรียนรู้ การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) อ.เมือง จ. สิงห์บุรี และเป็นศูนย์ตัวแทนจังหวัดสิงห์บุรี ในโครงการ 76 จังหวัด 76 โมเดลจ่าเหม่ง เกษตรอินทรีย์ เป็นศูนย์เรียนรู้เรื่องเกษตรอินทรีย์แบบครมจร โดยเริ่มตั้งแต่การปลูกผักอินทรีย์, การผลิตปุ๋ยหมัก, การผลิตน้ำหมักรกหมู,การผลิตน้ำหมักปลา, การผลิต ไตรโคเดอร์ม่า, การผลิตเชื้อราบิวเวอเรียและเมธาไรเซียม, การผลิตเชื้อแบทีเรียบาซิลลัสกิงยูเรซิส (BT), การผลิตไส้เดือนฝอย, การเพาะกล้าและปลูกผัก, การเก็บเกี่ยวและการขายผลยานที่เป็นภาคภูมิใจ ได้แก่ เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ สาขาเกษตรอินทรีย์ประจำปี พ.ศ. 2567 ปราชญ์เกษตรของแผ่นดินดีเด่น ระดับ เขต ปี 2563รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 การรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ มกษ.9001-2552 หรือ รางวัลเกษตรกรดีเด่น สาขาการปฏิบัติการเกษตรที่ดีสำหรับพืช หรือGAP ดีเด่น
ประวัติความเป็นมา

ร.ต.บัญชา เพชรรักษ์ หรือจ่าเหน่ง ชาวบ้าน ม.6 ต.โพกรวม อ.เมืองสิงห์บุรี อดีตข้าราชการที่ลาออกมาจากงานประจำ เพราะปัญหาด้านสุขภาพ ทำให้เป็นจุดเริ่มต้นแบวคิด “การกำเกษตรอิบทรีย์”โดยปี พ.ศ.2553 จากที่เดิมเคยเลี้ยงหมูเป็นอาชีพเสริมจากงานประจำ ก็เพิ่มเติมโดยการเลี้ยงไข่โก่ และปลูกผัก ซึ่งในช่วงแรกนั้นก็ลองผิดลองถูก ทดลองสูตรปัยหมัก ปรับสภาพดิน ผลิตปุ๋ยชนิดต่างๆ ที่มีต้นทุนจากสิ่งรอบตัว เช่น ใบไม้ มูลสัตว์ เริ่มจากปลูกผักประมากที่เรากินเอง ขยายผลเป็นผักชนิดต่างๆมากกว่า 10 ชนิด จนเข้าที่เข้าทาง และได้ผลผลิตดีระหว่างนั้นนอกเหนือจากการบริโภคเองก็มองหาช่องทางการตลาดเพื่อเพิ่มรายได้ ซึ่งตอบโจทย์เป็นอย่างดีกับสถานการณ์ปัจจุบันที่คนเริ่มมาใส่ใจเรื่องการรับประกานอาหาร ปลอดภัย และดูแลสุขภาพกันมากขึ้นหลังจากประสบความสำเร็จในการปลูกผักนานาชนิดโดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ตลอดระยะเวลาการเพาะปลูกจนกระทั่งเก็บเกี่ยว พยายามทำมากว่า 14 ปีจนกระทั่งประมาณปี 2564 ได้ พัฒนาไปอีกขึ้นด้วยการเปิดร้านไว้รองรับลูกค้าที่บ้าน มีทั้งอาหารเครื่องดื่ม ซึ่งเพิ่มเติมจากเดิมที่ส่งขาย เฉพาะผักปลอดภัยให้กับลูกค้าเฉพาะกลุ่ม และขายที่ตลาดเกษตรฝาครอบคลอง ตลาดสิงห์บุรี ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เท่านั้นส่งผลทำให้ลูกค้าเพิ่มขึ้น มีผู้คนสนใจแวะเวียนมารับประทานรวมถึงซื้อผักถึงที่ และยังบาศึกษาขั้นตอนการปลูก การทำปุ้ยและกลับไปปลูกกันอีกด้วย ซึ่งจ่าเหม่งก็ยินดีถ่ายทอดวิชาให้โดยไม่กั๊กเลยแม้แม้แต่นอกจากนี้ยังได้เป็นวิทยากร ให้คำแนะนำเป็นที่ปรึกษากับผู้สนใจและหน่วยงานต่างๆ อย่างต่อเนื่อง จบมีเครือข่ายที่ประสบความสำเร็จมากมายนับไม่ถ้วน โดยที่จ่าเหน่งทุ่มเทไห้ความรู้กับผู้ที่ต้องการเรียนรู้และนำไปปฏิบัติอย่างไม่หวังผลตอบแทน เพียงเพราะอยากส่งเสริมให้ผู้สบใจได้ลงมือทำมีความสุขตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงแบบที่จ่าเหน่งและครอบครัวได้มีอยู่ทุกวันนี้มาถึงจุดนี้..จำเหน่งบอกว่า น่าจะเป็นจุดที่ทำให้ได้รับคัดเลือกได้รับรางวัลเกษตรกรกรดีเด่น สาขาเกษตรอินทรีย์ ประจำปี 2567 เป็นหนึ่งเดียวของประเทศไทย ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจที่สุดของชีวิตแล้วน้อย
บุคลากร (หน้าที่)

การบริหารจัดการจ่าเหน่ง ฟาร์มเกษตร โดย ร.ต.บัญชา เพชรรักษ์หรือจ่าเหน่ง และนางศรัญญา เพ็ชรักษ์ ภรรยา ร่วมกันปลูกผักและเปิดร้านอาหารนอกจากนี้ยังเป็นประธานและสมาชิกกลุ่มอีกหลายกลุ่ม เช่น ศูนย์ เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชนบ้านไร่กล้วย ศูนย์เรียนรู้เกษตรอินทรีย์PCS (ศูนย์ใหม่) การเรียบรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสิบค้าเกษตร(ศพก.) อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี
ผลิตภัณฑ์/ผลผลิต หรือบริการหลัก

เปิดร้านสเต็กและกาแฟสด จำหน่ายผักสลัดอินทรีย์ ผลไม้อินทรีย์ สลัดโรล สลัดผัก ดินปลูก ปุ้ยหมักอินทรีย์คุณภาพสูงต้นกล้าผักบริการจัดกระเช้าผักสถานที่จัดอบรมพร้อมอาหาร
จุดเด่นของพื้นที่
จุดเด่นของพื้นที่ที่ทำให้เป็นศูนย์การเรียนรู้แหล่งเรียนรู้ ชุมชน
1. การคมนาคมสะดวก
2. ได้รับรางวัลระดับประเทศ ได้มาตรฐานเกษตรอินทรีย์สากล เช่น Organics Thailand, PCS
3. การผลิตผักอินทรีย์แบบครบวงจจร ตั้งแต่ปลูก และมีโรงแพคที่ได้มาตรฐาน (อย.) จนถึงการ
จำหน่าย (ร้านอาหาร)
4. องค์ความรู้เรื่องการทำเกษตรอินทรีย์ และการขอมาตรฐานเกษตรอินทรีย์
5. สถานที่พร้อมในการจัดการอบรม



รูปแบบของกิจกรรมการเรียนรู้

ประสบการณ์/รางวัล/ความภูมิใจ

ข้อมูลการติดต่อ


ภาพกิจกรรม



