Page 107 - วารสารวัฒนเทพ (วารสารรายปี ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 เมษายน 2564 - มีนาคม 2565)
P. 107
บทนำ
มนุษยทุกคนเกิดมาอยูรวมกันเปนกลุมสังคมมีการสรางวัฒนธรรมขึ้นมาในกลุม
สังคมของตนเอง เพื่อเปนเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจใหรูสึกอบอุน ปลอดภัย เปนที่ยึดมั่นและ
ยอมรับตอกันมาเปนเวลานาน เมื่อมนุษยเกิดการยอมรับในเรื่องใดเรื่องหนึ่งก็จะแสดงออก
ทั้งทางกายและใจ การยอมรับนับถือนี้ถือไดวาเปน “ความเชื่อ” ซึ่งมีทั้งความเชื่อทางศาสนา
ความเชื่อทางไสยศาสตร ความเชื่อที่เกี่ยวกับวิถีชีวิต ความเชื่อเรื่องผีสางเทวดา ฯลฯ ถือได
วาความเชื่อเหลานี้ปรากฏใหเห็นอยูทั่วไปในสังคมไทย
สังคมไทยถือเปนสังคมที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและผูกพันกับความเชื่อ
แตกตางกันไปใน แตละทองถิ่น โดยความเชื่อเปนสิ่งที่เกิดจากการยึดมั่นถือมั่นในสิ่งใดสิ่ง
หนึ่ง เพื่อเปนเครื่องยึดเหนี่ยวในการดำรงชีวิต ถึงแมวาโลกปจจุบันจะมีวิทยาการที่กาวหนา
ไปมากแลวก็ตาม แตเราก็พบวามนุษยยังมีความเชื่อในสิ่งที่ไมมีเหตุผลหรือเชื่อในสิ่งที่จะหา
หลักฐานมาพิสูจนใหเห็นจริงไดยากอีกเปนจำนวนมาก (สุนันท อุดมเวช, 2524, หนา 114)
ในสังคมชนบทมีความเชื่อในเรื่องตาง ๆ ที่มีอิทธิพลในการกำหนดพฤติกรรมของคนในสังคม
โดยเฉพาะความเชื่อเกี่ยวกับผีสางเทวดา แมวาคนไทยสวนใหญจะนับถือพุทธศาสนาแต
ความเชื่อในเรื่องผีสางเทวดาก็ไดรับการยอมรับนับถือมาชานาน มีการผสมผสานระหวาง
ความเชื่อทางศาสนา ไสยศาสตร ผี วิญญาณ และอำนาจเหนือธรรมชาติ ที่นักวิชาการเคย
อธิบายวาความเชื่อแบบพุทธและผีดำรงอยูดวยกัน ความเชื่อเรื่องผีสางเทวดาที่ปรากฏใน
สังคมไทยมีทั้งที่ใหคุณและใหโทษ ผีที่ใหโทษจะเปนผีที่อันตรายตอคน ตองมีการเซนไหวเพื่อ
ขอขมา สวนผีที่ใหคุณจะเปนผีที่คอยคุมครองปกปองพิทักษบานเมือง ชวยรักษาคนใหหาย
จากการเจ็บปวย ตลอดจนชวยดลบันดาลใหสมความปรารถนา ซึ่งคนไทยไดยึดมั่นและ
ยอมรับในการอยูรวมกับความเชื่อนี้มาตั้งแตอดีตจนถึงปจจุบัน (สนิท สมัครการ, 2539,
หนา 124)
นางตะเคียนหรือเจาแมตะเคียน เปนความเชื่อทองถิ่นที่ชาวบานเชื่อวาตนไมใหญ
จะมีรุกขเทวดาอาศัยอยู ในคัมภีรธัมมปทัฏฐกถาถือวารุกขเทวดาอยูจำพวกเดียวกับพระภูมิ
ซึ่งรุกขเทวดา หรือ รุกขัฏฐะเทวดา เปนเทวดาที่อาศัยอยูบนตนไมบนสวรรคชั้นที่ 1
(จาตุมหาราชิกา) รุกขเทวดาแบง ออกเปน 2 พวก คือ พวกหนึ่งมีวิมานอยูบนยอดตนไม
(รุกขวิมาน) หรืออยูบนกิ่งกานของตนไม (สาขัฏฐวิมาน) อีกพวกหนึ่งไมมีวิมานแตอาศัยอยูใน
ตนไม เชื่อกันวารุกขเทวดา คือวิญญาณของมนุษยที่ทำความดีไมสมบูรณ จึงไปสิงอยูในตนไม
ความเชื่อนี้ปรากฏอยูในเรื่องไตรภูมิตามคติพุทธศาสนา และในพุทธประวัติ ซึ่งมีการอธิบาย
ชนิดของเทพและเทวดาที่อาศัยอยูในสวรรค และเมื่อกลับมาพิจารณาเรื่องเทวดาที่อาศัยอยู
ในตนไม ก็อาจพอจะสันนิษฐานไดวาในวัฒนธรรมทองถิ่นของไทย ชาวบานจะมองวาตนไม
ใหญ โดยเฉพาะตนตะเคียน คือที่สิงสถิตของรุกเทวดาที่เปนเพศหญิง (ฑีฆา โยธาภักดี,
และคนอื่น ๆ, 2562, หนา 194) ความเชื่อทางวัฒนธรรมไดผสานกับการอธิษฐานโชคลาง
99