วัดไทยงาม

วัดไทยงาม

ที่ตั้ง

ตำบลโคกแย้ อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี

ภาพศูนย์ วัดไทยงาม

วัดไทยงาม

ภาพประกอบ

"วัดไทยงาม" เป็นวัดโบราณในตำบลโคกแย้ อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ที่มิได้เป็นเพียงศูนย์กลางทางศาสนาเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่แห่งหนึ่งที่สะท้อนพระราชกรณียกิจอันสำคัญยิ่งของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) โดยเฉพาะในด้านศาสนาและวัฒนธรรม
จุดเด่นอันเป็นประจักษ์แห่งพระราชหฤทัยที่ทรงห่วงใยพระพุทธศาสนา คือเหตุการณ์เมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2522 ที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินมายังวัดไทยงาม เพื่อทรงเททองหล่อองค์พระประธานประจำอุโบสถด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เอง พระพุทธรูปองค์นี้ได้รับพระราชทานนามว่า "พระพุทธไทยงามมงคล ทศพลธรรมสาธิต" ซึ่งนับเป็นพระราชกรณียกิจสำคัญที่แสดงถึงความเลื่อมใสและส่งเสริมพระศาสนาอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ พระองค์ท่านยังพระราชทานพระปรมาภิไธยย่อ "ภ.ป.ร." ประดิษฐานไว้ที่หน้าบันของอุโบสถและผ้าทิพย์ขององค์พระประธานถือเป็นเกียรติสูงสุดที่ประชาชนในพื้นที่ภาคภูมิใจและเคารพสักการะอย่างลึกซึ้ง บับแต่นั้นมา วัดไทยงามจึงกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ที่เชื่อมโยงกับพระราชกรณียกิจของในหลวง รัชกาลที่ 9 ด้วยเหตุนี้ วัดไทยงามจึงมิใช่เพียงวัดเก่าแก่ แต่ยังเป็นหลักฐานแห่งพระมหากรุณาธิคุณอันลึกซึ้ง ที่ควรค่าแก่การศึกษาทั้งในมิติศาสนา ประวัติศาสตร์ และพระราชประวัติของพระมหากษัตริย์ไทยผู้ทรงคุณูปการสูงสุดต่อชาติบ้านเมือง

วัดไทยงาม (เดิมชื่อ วัดไทรงาม) ตั้งอยู่ที่เลขที่ 41 (หรือ 51) บ้านไทยงาม หมู่ที่ 2 ถนนสุวรรณศร ตำบลโคกแย้ อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี เป็นวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ วัดไทยงามสร้างในสมัยอยุธยา เมื่อ พ.ศ. 2029 ในรัชสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ แห่งกรุงศรีอยุธยา (อยุธยาตอนต้น) การสร้างวัดนี้เกิดจากการทูลขอของพระสนมเอก ซึ่งมีถิ่นฐานเดิมจากเวียงจันทน์ ในช่วงแรก วัดมีชื่อว่า "วัดพระสนมลาว" หรือ "วัดสนมลาววิหาร" และชาวบ้านมักเรียกสั้น ๆ ว่า "วัดสนมลาว" ซึ่งชื่อนี้ได้กลายมาเป็นชื่อเรียกหมู่บ้านแถบนั้นว่า "บ้านสนมลาว" ด้วย การย้ายที่ตั้งและบูรณะ เดิมวัดตั้งอยู่ที่บริเวณภูเขาโปร่งแร้ง ห่างจากที่ตั้งปัจจุบับประบาณ 500 เมตร เมื่อเวลาผ่านไป สภาพวัดทรุดโทรมลงจึงได้มีการย้ายเสนาสนะมาสร้างขึ้นใหม่ ณ ที่ตั้งปัจจุบัน ซึ่งเดิมเป็นเขตพระราชฐาน มีอาคารที่เรียกว่า "หอเย็น" ซึ่งยังคงสภาพดีอยู่ และต่อมาได้ดัดแปลงเป็นอุโบสถของวัด ในปี พ.ศ. 2483 ได้มีการเปลี่ยนนามวัดใหม่เป็น "วัดไทยงาม" เพื่อให้สอดคล้องกับยุคสมัย (แม้ปัจจุบันบางแห่งยังคงใช้ชื่อ "วัดไทรงาม" อยู่) ในด้านการศึกษา วัดไทยงามได้เปิดการเรียนการสอบพระปริยัติธรรมมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2511 เพื่อเผยแผ่และส่งเสริมการศึกษาพระธรรมวินัย ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา (เขตแดนที่พระสงฆ์ใช้สังฆกรรม) เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2520 และได้ประกอบพิธีผูกพัทธสีมา (กำหนดเขตแดนที่สมบูรณ์) เมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2522 จุดเด่นของวัด ได้แก่ อุโบสถ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2521 เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กที่แข็งแรงและที่หน้าบันของอุโบสถมีตราสัญลักษณ์พระปรมาภิไธยย่อ "ภ.ป.ร." ประดิษฐานอยู่ พระประธานในอุโบสถ "พระพุทธไทยงามมงคล ทศพลธรรรมสาธิต" เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญประจำวัด องค์พระประธาน มีขนาดพระเพลากว้าง 3 ศอก 9 นิ้ว เป็นพระพุทธรูปปางประทานพร ที่มีความพิเศษอย่างยิ่งคือพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) ได้เสด็จพระราชดำเนิบมาทรงเททองหล่อองค์พระประธานนี้ด้วยพระองค์เอง เมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ.2522 และได้พระราชทานนามอันเป็นมงคลว่า "พระพทธไทยงามมงคล ทศพลธรรรมสาธิต" บอกจากนี้ ที่ผ้าทิพย์ประทานขององค์พระยังประดับด้วยพระปรมากิไธยย่อ "ภ.ป.ร." ที่ได้รับพระราชทานอีกด้วย ปัจจุบัน พระครูสมุห์ไพศาล ปัญญาทีโป ดำรงตำแหน่ง รักษาการเจ้าอาวาส วัดไทยงามยังคงเป็นศูนย์กลางในการประกอบกิจกรรมทางพุทธศาสนาต่าง ๆ เช่น การทำบุญตักบาตร, การเวียนเทียนในวันวันสำคัญกางศาสนา และการจัดพิธีกอดกฐิน วัดไทยงามจึงไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจ แต่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่สะท้อนถึงศรัทธาอันยาวนานของผู้คนในพื้นที่อีกด้วย

พระครูสมุห์ไพศาล ปัญญาทีโป

ดำรงตำแหน่ง รักษาการเจ้าอาวาส วัดไทยงาม

ผู้ใหญ่ไพฑูรย์ พากวัด

ผู้ให้ข้อมูล วัดไทยงาม

ครูอาทิตยา ป้อมทอง

ผู้ให้ข้อมูล วัดไทยงาม

หน้าบันของอุโบสถมีตราสัญลักษณ์ พระปรมาภิไธยย่อ "ภ.ป.ร."

มีดตัดหวายและพัด (รัชกาลที่ 9)

ภาพพระราชกรณียกิจ อุโบสถเหลังเก่า

จิตรกรรมฝาผนัง ณ อุโบสถหลังใหม่

หลวงพ่อรัศมี อายุ 500 ปี

วัตถุมงคล

ศาลาหลวงพ่อเจริญ

ประตูทางเข้าวัด

จุดเด่นอันเป็นประจักษ์แห่งพระราชหฤทัยที่ทรงห่วงใยพระพุทธศาสนา คือเหตุการณ์เมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2522 ที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินมายังวัดไทยงาม เพื่อทรงเททองหล่อองค์พระประธานประจำอุโบสถด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เอง พระพุทธรูปองค์นี้ได้รับพระราชทานนามว่า "พระพุทธไทยงามมงคล ทศพลธรรมสาธิต" ซึ่งนับเป็นพระราชกรณียกิจสำคัญที่แสดงถึงความเลื่อมใสและส่งเสริมพระศาสนาอย่างแท้จริง นอกจากนี้ พระองค์ยังพระราชทานพระปรมาภิไธยย่อ "ภ.ป.ร." ประดิษฐานไว้ที่หน้าบันของอุโบสถและผ้าทิพย์ขององค์พระประธาน ถือเป็นเกียรติสูงสุดที่ประชาชนในพื้นที่ภาคภูมิใจและเคารพสักการะอย่างลึกซึ้ง นับแต่นั้นมา วัดไทรงามจึงกลายเป็นแหล่งเรียบรู้ทางประวัติศาสตร์ที่เชื่อมโยงกับพระราชกรณียกิจของในหลวง รัชกาลที่ 9 อย่างแนบแน่น

จุดเด่น

การบรรยาย 1. ข้อมูลประวัติความเป็นมาวัดไทยงาม 2. ข้อมูลเสด็จประพาสในหลวงรัชกาลที่ 9,รัชกาลที่ 10 - พิธีตัดหวายลูกนิมิต และเปิดอุโบสถหลังใหม่ - พิธีเททองหล่อพระประธาน - อุโบสถหลังเก่า หลวงพ่อรัศมี ภาพประวัติศาสตร์ 3. อุโบสถหลังใหม่ - จิตรกรรมฝาผนัง เรื่องราวพระราชกรณียกิจ - มุมจัดแสดงมีดตัดหวาย พัดที่ระลึก 4. วัตถุมงคล เพื่อการศึกษาเรื่องราวประวัติศาสตร์ของวัดไทยงาม

กิจกรรม

รางวัล

อุโบสถวัดไทยงาม สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2521 เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กที่แข็ง แรง และที่หน้าบันของอุโบสถมีตราสัญลักษณ์พระปรมาภิไธยย่อ "ภ.ป.ร." ประดิษฐาน อยู่ พระประธานในอุโบสถ "พระพุทธไทยงามมงคล ทศพลธรรมสาธิต": เป็นสิ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สำคัญประจำวัด องค์พระประธานมีขนาดพระเพลากว้าง 3 ศอก 9 นิ้ว เป็นพระพุทธรูป ปางประทานพร ที่มีความพิเศษอย่างยิ่งคือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ได้ เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเททองหล่อองค์พระประธานนี้ด้วยพระองค์เอง เมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2522 และได้พระราชทานนามอันเป็นมงคลว่า "พระพุทธไทยงามมงคล ทศพลธรรมสาธิต" นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระ วชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เคยเสด็จประพาสยกช่อฟ้า ณ วัดไทยงาม เช่นเดียวกัน

ที่อยู่ : ตำบลโคกแย้ อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี

Facebook : วัดไทยงาม ต.โคกแย้ จ.สระบุรี

เบอร์โทรศัพท์ : 061 153 5653